26/02/2024
PTT Digital ร่วมงานสัมมนาผู้แทนจำหน่ายสถานีบริการ PTT Station ทั่วประเทศ
ประจำปี 2567 นำเสนอ Smart Solutions สนับสนุนสถานีบริการน้ำมัน
เพิ่มพลังธุรกิจด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล
เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2567 บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด หรือ PTT Digital ได้มีโอกาสต้อนรับ คุณอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) คุณดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) คุณสุชาติ ระมาศ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) และคุณพิมาน พูลศรี รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน)พร้อมคณะผู้บริหารระดับสูงในงานสัมมนาผู้แทนจำหน่ายสถานีบริการ PTT Station ทั่วประเทศ ประจำปี 2567 ภายใต้แนวคิด “Converging Toward Excellence รวมพลังให้เป็นหนึ่ง เพื่อสร้างความเป็นเลิศ” โดยมี คุณนภัทร นภินธากร กรรมการ
ผู้จัดการ บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด (PTT Digital) และคณะผู้บริหารบริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด ให้การต้อนรับที่บูธจัดแสดงของ PTT Digital ณ ห้อง Bangkok Convention Centre โรงแรม Centara Grand & Bangkok Convention Centre Central World กรุงเทพมหานคร
ในงานนี้ ส่วนพัฒนาระบบงานค้าปลีกน้ำมัน (พร.พบธ.) บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จํากัด (มหาชน) หรือ OR ร่วมกับ PTT Digital นำเสนอโซลูชันที่ทาง PTT Digital พัฒนาและให้บริการแก่สถานีบริการ PTT Station ซึ่งช่วยยกระดับการบริหารจัดการภายในสถานีบริการน้ำมันด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลและสร้างโอกาสในการพัฒนาธุรกิจให้เติบโตไปอย่างมีประสิทธิภาพโดยโซลูชันที่นำมาเสนอ ประกอบด้วย Dashboard POS On Cloud ที่อำนวยความสะดวกให้กับผู้ให้บริหารสถานีบริการในการดูข้อมูลได้อย่าง Real Time ตลอด 24 ชั่วโมงผ่านทาง Tablet หรือ Smart phone พร้อมทั้ง ปรับแต่งหน้าจอตามความต้องการได้ด้วยตนเอง ต่อด้วยนำเสนอ POS Oil Next Move การให้บริการเติมน้ำมันแบบ Self-Serve ที่สามารถบริการด้วยตนเองง่าย ๆ ไม่ว่าจะเป็น การสั่งเติมน้ำมัน ชำระค่าบริการ ได้อย่างสะดวกและรวดเร็วต่อการให้บริการของสถานีบริการ นับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยให้สถานีบริการสามารถรองรับลูกค้าได้มากขึ้น เป็นการเพิ่มโอกาสทางรายได้ให้กับสถานีบริการน้ำมัน และนำเสนอ Lavender อุปกรณ์เชื่อมต่อเครื่อง POS และ Back Office สำหรับสำรองข้อมูลการขาย กรณีที่ระบบขัดข้อง นับเป็นอุปกรณ์ที่สามารถช่วยสนับสนุนการบริหารจัดการสถานีบริการน้ำมันให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับงานสัมมนาครั้งนี้บูธของ PTT Digital ได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมงานเป็นอย่างมาก ทีมงาน PTT Digital ให้การต้อนรับ พูดคุย พร้อมตอบข้อซักถามเกี่ยวกับระบบบริหารจัดการภายในสถานีบริการน้ำมันจากผู้บริหารสถานีได้เป็นอย่างดี พร้อมสนับสนุนการเตรียมความพร้อมเข้าสู่การให้บริการสถานีน้ำมัน ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างครบวงจรในอนาคต
+
24/01/2024
PTT Digital ร่วมกับ SS&C Blue Prism จัดงาน SS&C Blue Prism Accelerate Workshop, Scaling at speed with Intelligent Automation แบ่งปันความรู้การนำเทคโนโลยี IPA มาใช้ในกระบวนการทางธุรกิจช่วยให้การทำงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด (PTT Digital) ร่วมกับ บริษัท เอสเอส แอนด์ซี บลู ปริซึม (SS&C Blue Prism) ผู้นำด้านซอฟต์แวร์ Intelligent Automation ระดับโลก ในฐานะ Business Partner จัดงาน SS&C Blue Prism Accelerate Workshop, Scaling at speed with Intelligent Automation แบ่งปันความรู้การนำเทคโนโลยี Intelligent Process Automation หรือ IPA มาใช้ในกระบวนการทางธุรกิจเพื่อสนับสนุนการทำงานให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นให้กับบริษัทในกลุ่ม ปตท. โดยมี คุณทวนทอง สุวรรณหงษ์ Client Solutions Vice President, PTT Digital และ Mr. Jason Soh Senior Director, Channels & Alliances SS&C Blue Prism เป็นประธานร่วมกล่าวเปิดงานฯ ณ ห้อง Digital Sphere ชั้น 4 อาคาร EnCo B กรุงเทพมหานคร
โดยงานนี้ได้รับความสนใจจากพนักงานบริษัทในกลุ่ม ปตท. ในหลากหลายหน่วยธุรกิจและฟังก์ชันงาน เข้ารับฟังบรรยายการนำเทคโนโลยี IPA ไปใช้ในกระบวนการทำงานเพื่อยกระดับการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยมี Mr. Brain Halpin SVP, SS&C Internal Automation บรรยายในหัวข้อ “Best Practice sharing – Scaling at Speed with Intelligent Automation” และมี Mr. Joe Lim Senior Solution Consultant, ASEAN & GCR SS&C Blue Prism ร่วมบรรยายในหัวข้อ “Process Discovery Session – Identification of Pipeline”
นอกจากนี้ คุณณัฐพล สุพละเศรษฐ Client Solutions Specialist , PTT Digital ได้ร่วมนำเสนอบริการของศูนย์บริการ IPAC (Intelligent Process Automation Center) ที่ให้บริการในรูปแบบ Pay-Per-Use แห่งแรกในเอเชีย พร้อมทั้งแบ่งปัน Use Case การนำเทคโนโลยี IPA ไปใช้ในกระบวนการทางธุรกิจต่าง ๆ จากการให้บริการองค์กรชั้นนำระดับประเทศ
ในช่วงท้ายของงาน ทีมงาน PTT Digital และ SS&C Blue Prism ร่วมตอบข้อซักถามจากทางพนักงาน บริษัทในกลุ่ม ปตท. ที่มารับฟังบรรยาย รวมไปถึงแบ่งปันแนวทางในการนำเทคโนโลยี IPA ไปใช้ในหน่วยธุรกิจต่าง ๆ เพื่อยกระดับกระบวนการทำงานขององค์กรให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น
+
18/01/2024
PTT Digital คว้า 2 รางวัลผลงาน Technology ยอดเยี่ยมแห่ง Asian
จากงานประกาศรางวัล The Asian Technology Excellence Awards 2023
เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด นำโดย คุณกวีศักดิ์ บุญเฉลียว กรรมการผู้จัดการ คณะผู้บริหาร และทีมงานบริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด ได้เข้าร่วมรับรางวัลจากการประกวดผลงาน Technology ยอดเยี่ยมแห่ง Asian ภายใต้ชื่องาน “The Asian Technology Excellence Awards ประจำปี 2566” จัดโดย The Asian Business Review ซึ่งเป็นโครงการประกวดระดับภูมิภาค Asian คัดเลือกบริษัทที่มีนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่โดดเด่นได้มาตรฐาน และเป็นผู้นำในการพัฒนาเทคโนโลยีมาใช้ในการเปลี่ยนแปลงกระบวนการทางธุรกิจให้เกิดประสิทธิภาพ เข้าร่วมการแข่งขันโดยบริษัทชั้นนำทั่วภูมิภาค Asian สำหรับรางวัลแห่งความภาคภูมิใจที่ PTT Digital ได้รับในครั้งนี้ประกอบไปด้วย 2 รางวัล ซึ่งได้แก่ :
1) รางวัล Thailand Technology Excellence Award for AI – Energy for the Hyperautomation and Digital Worker to Revolutionize Energy Supply Chain Management ซึ่งนำเสนอเทคโนโลยี ภายใต้ชื่อ Product GAIA - Supply Chain Management Platform พัฒนาโดยทีมงาน PTT Digital
GAIA Platform นำแนวคิด Hyperautomation และ Digital Worker solutions มาผสานเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้าด้วยกันโดยเป็นการเชื่อมโยงการทำงานระหว่าง Business และ People Process เพื่อบริหารจัดการตั้งแต่การกระจายสินค้าคงคลังไปจนถึงการขนส่งครบวงจรอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดย GAIA Platform มีการนำเทคโนโลยี ML และ AI มาช่วยในการประมาณการณ์ความต้องการสินค้าล่วงหน้า รวมถึงการกระจายสินค้าไปยังตำแหน่งต่าง ๆ ได้อย่างแม่นยำ นอกจากนี้ยังทำการตรวจสอบพฤติกรรมของผู้ขับขี่พาหนะในการจัดส่งสินค้า ซึ่งโซลูชั่นนี้จะมีส่วนช่วยในการบริหารจัดการและวางแผนการกระจายสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดต้นทุนทางธุรกิจ และยังสามารถเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันในระยะยาวอีกด้วย
2) รางวัล Thailand Technology Excellence Award for Digital – Oil & Gas for the Digital Transportation in Oil and Gas industry with Hyperautomation augmentation ซึ่งนำเสนอเทคโนโลยีภายใต้ชื่อ Product Hermes - Logistics and Transportation Platform พัฒนาโดยทีมงาน PTT Digital
สำหรับรางวัลนี้ PTT Digital ได้นำเสนอ Hermes Platform ระบบควบคุมและติดตามการขนส่ง (Logistic tracking platform) ที่ออกแบบให้รองรับการทำ Solution ด้าน Logistic ทางบก ซึ่งจะสามารถช่วยผู้ประกอบการหรือผู้ใช้งานให้สามารถบริหารจัดการติดตามการขนส่งทั้งกระบวนการได้อย่างมีประสิทธิภาพแบบครบวงจร
Hermes Platform พร้อมให้บริการสำหรับผู้ใช้บริการที่เป็นเจ้าของยานพาหนะขนส่งมากกว่า 1,500 คัน ช่วยให้ผู้ใช้บริการทราบสถานะการขนส่งสินค้า ความปลอดภัยในการขนส่ง รวมไปถึงประสิทธิภาพการขนส่งในขั้นตอนต่าง ๆ ของกระบวนการขนส่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งก่อนการรับสินค้า ระหว่างการขนส่ง และการส่งมอบ
แนวคิด Hyperautomation ใน Hermes Platform ช่วยให้เจ้าของธุรกิจสามารถมองเห็นการดำเนินงานในทุกกระบวนการได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น ตั้งแต่การจัดการคำสั่งซื้อ การจัดการการขนส่ง การจัดการคลังสินค้า การจัดการ Vendor รวมถึงความปลอดภัยของพนักงาน ผ่านการนำเทคโนโลยี IoT-cloud geolocation, AI และ MLมาใช้ และเชื่อมต่อข้อมูลของทุกกระบวนการให้เป็นภาพเดียวกัน ซึ่งเป็นการช่วยยกระดับขีดความสามารถในการดำเนินงานครบทั้ง Value Chai
โดยรางวัลนี้เป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ด้านศักยภาพและมาตรฐานการพัฒนาเทคโนโลยีภายใต้รูปแบบ Platform ของ PTT Digital ว่าสามารถแข่งขันและมีศักยภาพเทียบเท่าองค์กรอื่น ๆ ในตลาดภูมิภาค Asian ได้ โดย PTT Digital มีความมุ่งมั่นและตั้งใจในการพัฒนาศักยภาพการทำงาน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าของบริษัททั้งในและนอกกลุ่ม ปตท. ที่ไว้วางใจให้ PTT Digital เป็นผู้ให้บริการเทคโนโลยีสารสนเทศขององค์กร
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรางวัลดังกล่าวของ PTT Digital ได้ที่ : https://asianbusinessreview.com/event-news/ptt-digital-company-limited-wins-2-accolades-asian-technology-excellence-awards-2023
+
18/01/2024
PTT Digital คว้ารางวัล
Regional Best Practice & Implementation Partner: Value Added Reseller
จากงานประกาศรางวัล SS&C BluePrism Partner Excellence Awards 2023
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 8 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด ได้รับรางวัล Regional Best Practice & Implementation Partner : Value Added Reseller จากงานประกาศรางวัล SS&C Blue Prism Partner Excellence Awards 2023
โดยรางวัลในครั้งนี้ถือเป็นการตอกย้ำถึงความสามารถ และความพร้อมในการให้บริการของศูนย์บริการ IPAC (Intelligent Process Automation Center) ของ PTT Digital ที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อสนับสนุนการสร้าง Ecosystem ในการให้บริการเทคโนโลยี IA และ RPA ระดับ Enterprise ในรูปแบบ Platform as a service (PaaS) แห่งแรกของประเทศไทย ซึ่งเป็นการผนึกกำลังกับบริษัท เอสเอส แอนด์ซี บลูปริซึม หรือ SS&C BluePrism ผู้นำด้านซอฟต์แวร์ IA และ RPA ระดับโลก
Chief Partner Strategy Officer for SS&C Blue Prism, Linda Dotts, กล่าวว่า “ขอแสดงความยินดีกับ PTT Digital ที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ โดยรางวัลนี้เป็นการแสดงให้เห็นว่า PTT Digital มีความทุ่มเทที่จะส่งมอบบริการที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า สำหรับรางวัล Partner Awards ประจำปีนี้ ถือเป็นการแสดงความเชื่อมั่นในตัวพันธมิตรและยินดีกับความสำเร็จที่เกิดขึ้น ซึ่งทาง SS&C Blue Prism มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับทาง PTT Digital และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้มีโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ร่วมกันในอนาคต”
โดย SS&C BluePrism ได้ทำงานร่วมกันกับ PTT Digital นำโดยคุณประภาส บัวตา Head of IPAC , คุณพัฒนฉัตร กังกเวคิน IPAC Team Lead และทีมงาน IPAC อย่างใกล้ชิด เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการนำเทคโนโลยีมาใช้งาน รวมถึงการพัฒนาศักยภาพของทีมงานของ PTT Digital ให้มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาเทคโนโลยี IA และ RPA ให้พร้อมต่อยอดการนำเทคโนโลยีดังกล่าวไปใช้สนับสนุนงานกระบวนการทำงานขององค์กรภาคธุรกิจในประเทศไทยให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น พร้อมทั้งเสริมความคล่องตัวในการทำงานอย่างครบวงจร
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม: Winners Announced: Partner Excellence Awards 2023 | SS&C Blue Prism
+
18/01/2024
PTT Digital ร่วมเสวนาในงาน Splunk Experience Day Thailand
แบ่งปันประสบการณ์การดูแลความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์แก่บริษัทกลุ่ม ปตท.
ย้ำถึงการขับเคลื่อนองค์กรภายใต้กลยุทธ์ ‘Digital Resiliency’
เพื่อความอยู่รอดอย่างยั่งยืน
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 18 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด ได้รับเชิญจาก บริษัท Splunk ผู้ผลิต และให้บริการโซลูชันซอฟต์แวร์ด้านการเก็บข้อมูล (Log Management) และ SIEM (Security Information & Event Management) เข้าร่วมเสวนาภายใต้หัวข้อ “The Key to Enterprise Resilience - How to quickly overcome disruptions and safeguard your business” ในงาน Splunk Experience Day Thailand อัพเดทเทคโนโลยีที่ใช้บริหารจัดการความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ล่าสุด เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติแก่องค์กรในการป้องกันและรับมือต่อภัยคุกคามทางไซเบอร์ปัจจุบัน โดยในงานนี้มีผู้บริหารจากบริษัทชั้นนำให้เกียรติเข้าร่วมการเสวนา
ในงานดังกล่าว คุณสิริยาภรณ์ สูยานนท์ Infrastructure Management Services Vice President บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด ได้ร่วมแบ่งปันประสบการณ์การให้บริการและดูแลความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ในกลุ่ม ปตท. นอกจากนี้ยังได้ถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับกระบวนการจัดการ การวางแผนและการรับมือ ภายใต้กลยุทธ์ ‘Digital Resiliency’ ที่พร้อมปรับตัวและรับมือกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว พร้อมเน้นย้ำถึงการนำเทคโนโลยีที่หลากหลายมาใช้ในการบริหารจัดการเพื่อให้ตอบสนองต่อภัยคุกคามในทุกมิติ ซึ่งบริหารจัดการโดยทีมงานของ PTT Digital ที่มีความเชี่ยวชาญด้าน Cybersecurity โดยเฉพาะ เพื่อจัดการกับปัญหาและลดผลกระทบที่เกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที
+
01/11/2023
PTT Digital เปิดตัว IPAC (Intelligent Process Automation Center) ศูนย์บริการเทคโนโลยี IPA ครบวงจร มุ่งยกระดับกระบวนการทำงานให้ถูกต้องแม่นยำรวดเร็ว พร้อมรุกตลาด Healthcare และ Insurance
ทุกวันนี้หลายธุรกิจเริ่มเข้าสู่ยุค Digital Transformation แบบเต็มรูปแบบ ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยเทคโนโลยีเข้ามาช่วยสนับสนุนให้กระบวนการทำงานดีขึ้น เร็วขึ้น มีประสิทธิภาพและถูกต้องแม่นยำมากขึ้น โดยระบบ Robotic Process Automation (RPA) และ Intelligence Automation (IA) ถือเป็นเครื่องมือสำคัญในยุคดิจิทัลที่สามารถช่วยยกระดับกระบวนการทำงานสู่ระบบประมวลผลแบบอัจฉริยะ สนับสนุนให้เกิดกระบวนการ Digital Transformation ภายในองค์กรได้อย่างรวดเร็วตอบโจทย์องค์กรอนาคต
จากข้อมูลแนวโน้มตลาดทั่วโลกของ Intelligent Process Automation หรือระบบอัตโนมัติอัจฉริยะ คาดว่าในปี 2030 จะมีมูลค่าตลาดเติบโตมากถึง 13 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มสูงขึ้นจากปี 2020 ที่เติบโตอยู่ที่ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเพิ่มสูงขึ้นถึง 12 พันล้านดอลลาร์ฯ เพียงในระยะเวลา 10 ปีเท่านั้น ทำให้องค์กรธุรกิจหลายแห่งทั่วโลกได้เล็งเห็นว่าเทคโนโลยีการทำงานอัตโนมัติเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการก้าวไปสู่ Digital Transformation เพื่อสร้างความสำเร็จและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจในตลาดโลก
เร็วๆ นี้ ในงานเปิดตัว ‘ศูนย์บริการ Intelligence Process Automation Center’ หรือ ‘IPAC Grand Opening’ ที่ร่วมจัดโดย บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด (PTT Digital) บริษัทในกลุ่ม ปตท. ผู้ให้บริการระบบเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างครบวงจรมากว่า 17 ปี และ บริษัท เอสเอส แอนด์ซี บลู ปริซึม (SS&C Blue Prism) ผู้นำด้านซอฟต์แวร์ IA และ RPA ระดับโลก เข้าร่วมงานโดยผู้บริหารและทีมงานจากองค์กรชั้นนำด้านการแพทย์/สุขภาพและธุรกิจประกันภัย กว่า 100 ราย ณ โรงแรม Hotel Nikko Bangkok โดยในงาน นายทวนทอง สุวรรณหงษ์ รองประธานฝ่าย Client Solutions บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด กล่าวว่า “ปัจจุบัน PTT Digital มีความพร้อมที่จะช่วยยกระดับกระบวนการทำงานขององค์กรธุรกิจสู่ดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ ด้วยการนำเสนอบริการที่เกี่ยวข้องกับการนำเทคโนโลยี IA และ RPA ของศูนย์บริการ IPAC มาใช้งานอย่างครบวงจรในรูปแบบแพลตฟอร์มสำเร็จรูป ซึ่งเป็น Pay-Per-Use Intelligent Process Automation Center แห่งแรกของเอเชีย รวมถึงสามารถ customized บริการของ IPAC ให้เหมาะกับรูปแบบการใช้งานของธุรกิจได้ เพื่อให้องค์กรสามารถบริหารต้นทุนการใช้เทคโนโลยีอย่างคุ้มค่าในมาตรฐานระดับสากล
ที่สำคัญ ‘ระบบกระบวนการอัตโนมัติ’ หรือ RPA (Robotic Process Automation) จะเข้ามามีบทบาทอย่างมากในการทำงานในอนาคต และเป็นองค์ประกอบสำคัญของกลยุทธ์ในการนำ Intelligent Automation มาใช้งานในองค์กร โดย ‘บอท’ จะกลายเป็นแรงงานส่วนหนึ่งในองค์กร ซึ่งจะเข้ามาช่วยจัดการงานที่ต้องทำแบบซ้ำๆ งานที่ต้องประมวลผลข้อมูลเป็นจำนวนมาก และงานที่มีเงื่อนไขการตัดสินใจเป็นแบบแผน เช่น การคีย์ข้อมูล การเก็บข้อมูล การส่งอีเมล งานพิมพ์ รวมถึงช่วยลดระยะเวลาการทำงานแบบ routine และลดความผิดพลาดของงานที่เกิดจากคน (Human Error) ทำให้พนักงานมีเวลาที่จะโฟกัสกับงานและดูแลลูกค้าเพื่อสร้างคุณค่าให้กับองค์กรได้มากยิ่งขึ้น ส่งผลให้สามารถส่งมอบงานได้รวดเร็ว สร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า อีกทั้งยังช่วยลดต้นทุนด้านการผลิตหรือการดำเนินธุรกิจได้อย่างมากอีกด้วย
งานนี้ ได้รับเกียรติจาก Mr. Sunny Saha, SVP and General Manager บริษัท SS&C Blue Prism ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ร่วมกล่าวแสดงความยินดีในโอกาสเปิดตัวบริการ IPAC ที่มุ่งเพิ่มความคล่องตัว (Agile) และความสามารถในการตอบสนองต่อภาวะวิกฤต (Resilient) ของการดำเนินธุรกิจต่างๆ ทั้งธุรกิจ Healthcare และ Insurance ให้สามารถเพิ่มผลิตภาพและประสิทธิภาพได้ด้วยการใช้เทคโนโลยี IPA โดยความร่วมมือระหว่าง SS&C Blue Prism และ PTT Digital เริ่มต้นขึ้นจากการดำเนินโครงการตั้งแต่ปี 2019 เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย Digital Transformation ภายในกลุ่ม ปตท. และเริ่มขยายการลงทุนเป็นการให้บริการในรูปแบบแพลตฟอร์ม
ปัจจุบัน PTT Digital มีทีมผู้เชี่ยวชาญเทคโนโลยี Intelligent Automation จำนวนกว่า 60 คน ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานสากลด้านการพัฒนาการใช้งานเทคโนโลยี IA และ RPA ในทุกกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมจาก SS&C Blue Prism ซึ่งเป็นผู้นำด้านซอฟต์แวร์ IA และ RPA ระดับโลก ที่ผ่านมา PTT Digital ได้พัฒนาและดูแลการใช้งานบอท หรือ Digital Worker ให้กับลูกค้าในบริษัทชั้นนำรวมกว่า 100 ตัว โดยออกแบบฟังก์ชันงานที่แตกต่างกัน มากกว่า 130 รายการ ช่วยประหยัดเวลาทำงานได้มากกว่า 150,000 ชั่วโมง ซึ่งเป็นผลจากการนำระบบการทำงานอัตโนมัติเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการทำงานและเสริมความคล่องตัวให้องค์กรมากยิ่งขึ้น โดยบริการ IPAC เหมาะกับบริษัททุกขนาด โดยเฉพาะในธุรกิจการผลิต ธุรกิจการเงิน การธนาคาร การประกันภัย และธุรกิจสุขภาพ เป็นต้น
ภายในงาน ยังมีผู้เชี่ยวชาญจากทั้ง PTT Digital และ SS&C Blue Prism มาร่วมแบ่งปันข้อมูล บริการของ IPAC และประสบการณ์การให้บริการเทคโนโลยี IPA พร้อมแลกเปลี่ยนมุมมองและการนำเทคโนโลยี IPA มาใช้ใน Use Case จริงในกลุ่มธุรกิจ Healthcare และ Insurance โดยเฉพาะโดย SS&C Blue Prism ได้ยกตัวอย่างผลลัพธ์ของการนำระบบ Intelligent Process Automation เข้ามาช่วยในธุรกิจประกันภัยชั้นนำแห่งหนึ่งในสิงคโปร์ โดยใช้ Fraud Detection Bot เข้ามาช่วยวิเคราะห์ข้อมูลธุรกรรมและตรวจจับกิจกรรมที่เป็นการฉ้อโกง ซึ่งช่วยลดการสูญเสียเนื่องจากการฉ้อโกงและปรับปรุงความปลอดภัยให้กับลูกค้า รวมถึงการอนุมัติการเคลมและการอนุญาตแบบอัตโนมัติ โดยบอทช่วยเรื่องการเคลมได้ถึง 220,000 เคสนับตั้งแต่ใช้งาน, อนุมัติมูลค่าการเคลมได้ถึงวันละ 100,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ และช่วยประหยัดชั่วโมงการทำงานได้มากกว่า 100,000 ชั่วโมงต่อปี นอกจากนี้ ในธุรกิจสุขภาพของสหรัฐอเมริกา มีองค์กรระบบด้านสุขภาพได้นำระบบอัตโนมัติอัจฉริยะเข้ามาใช้ในโครงการต่างๆ เช่น นำระบบมาช่วยลดช่องว่างหรือข้อผิดพลาดของแอปพลิเคชั่นและเทคโนโลยีอื่นๆ ที่ไม่สามารถดำเนินการได้ แนวทางนี้ได้เปลี่ยนวิธีคิดของผู้คนเกี่ยวกับการใช้งานระบบอัตโนมัติอัจฉริยะอย่างมาก ซึ่งเป้าหมายไม่ใช่การลดบทบาทของคน แต่เพื่อปรับปรุงการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นและช่วยลดเวลาของพนักงานในการดำเนินงานที่มีความคุ้มค่ามากขึ้น เช่น การดูแลผู้ป่วยโดยตรง เป็นต้น
ทั้งนี้ IPAC สามารถยกระดับกระบวนการดำเนินงานได้แบบ End-to-End ด้วยการบูรณาการเทคโนโลยีดิจิทัลให้กับองค์กร เป็นการเอื้อประโยชน์การทำงานของพนักงานทั้งในส่วน Front office และ Back office โดยได้เชื่อมโยงการทำงานร่วมกัน ซึ่งต่อไป RPA จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในธุรกิจมากขึ้น โดยเฉพาะด้าน Healthcare และ Insurance และทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางอุตสาหกรรมต่างๆ โดยที่ผ่านมา PTT Digital ได้ให้บริการแก่หน่วยธุรกิจในฟังก์ชันที่หลากหลาย เช่น การทำงบพิสูจน์ยอดเงินฝากธนาคาร ภาษีสรรพากร การจัดซื้อจัดจ้าง ใบแจ้งหนี้/ใบวางบิล เป็นต้น
ศูนย์บริการ IPAC ของ PTT Digital ประกอบไปด้วยบริการ 4 หมวดหลัก ประกอบด้วย
1. D Bot คือบริการ Prebuilt BOT ซึ่งทำงานเป็น Digital Worker ที่มีความชำนาญในงาน common business process ชนิดต่างๆ
2. D Playbox คือบริการ Prebuilt Platform สำหรับผู้ที่ต้องการเข้าถึง tool และ facilities ในการพัฒนา Bot ได้อย่างรวดเร็ว เปรียบเสมือนเป็น Playground สำหรับผู้ที่ต้องการสร้างและพัฒนา Bot
3. D Academy คือบริการอบรมและพัฒนาศักยภาพทีมงานให้พร้อมเป็น Super User สามารถพัฒนา Bot ใช้งานในองค์กรได้อย่างคล่องตัว
4. IDP คือ บริการ Intelligent Document Processing ซึ่งใช้เทคโนโลยี OCR (Optical Character Recognition) ในการอ่านข้อมูลและเสริมศักยภาพการเรียนรู้และแก้ไขปัญหาด้วยเทคโนโลยี ML (Machine Learning) ต่อยอดเพิ่มทักษะการเรียนรู้วิธีการแก้ปัญหาให้ดีขึ้น
นายทวนทอง สุวรรณหงษ์ กล่าวปิดท้ายว่า IPAC พร้อมสนับสนุนทุกธุรกิจในด้านการบริหารจัดการต้นทุนการใช้งานเทคโนโลยีให้มีประสิทธิภาพด้วยบริการแบบ Pay-Per-Use, ช่วยลดระยะเวลาในการพัฒนาระบบ สามารถใช้งานเทคโนโลยีได้ทันต่อความต้องการทางธุรกิจ ด้วย Platform ที่รองรับการพัฒนา bots แบบ Ready-to-Use โดยองค์กรจะหมดปัญหาการสรรหาบุคลากรมาดูแลและต่อยอดการลงทุน ด้วยบริการ All-in-one Service Bundling ซึ่งพร้อมให้บริการแบบเบ็ดเสร็จครบวงจร ตั้งแต่การขึ้นระบบไปจนถึงบริการสนับสนุนระบบ ช่วยยกระดับทักษะดิจิทัลของพนักงานในองค์กร ด้วยบริการจาก Local Team ซึ่งเป็นทีมงานคนไทยที่เข้าใจกระบวนการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย (Thai Localized) และสนับสนุนดูแลผู้ใช้งานเทคโนโลยี RPA อย่างใกล้ชิด ถือเป็นจุดเด่นของอีกบริการของ PTT Digital
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : ส่วนการตลาด บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด อาทิตยา สุขาภิรมย์ โทร : 099-2967373 อีเมล : Atitaya.s@pttdigital.com
+
05/04/2023
พีทีที ดิจิตอล ผนึกไมโครซอฟท์ ยกระดับการทำงานและความปลอดภัยด้วยคลาวด์ระดับโลก ชูอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่ทันสมัย พร้อมทีมผู้เชี่ยวชาญ
ขับเคลื่อนภาคธุรกิจในยุคดิจิทัล
( กรุงเทพฯ – 5 เมษายน 2566 ) นายเทอดเกียรติ พร้อมมูล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลยุทธ์องค์กรและความยั่งยืน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และประธานกรรมการ บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด เป็นประธานในการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่าง บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด (PTT Digital) ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของบริษัทกลุ่ม ปตท. และบริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะบริษัทผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ และให้บริการคลาวด์รายใหญ่ของโลก โดยมีนายกวีศักดิ์ บุญเฉลียว กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด และ นายธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อยกระดับกระบวนการดำเนินงานและการให้บริการ รวมถึงการพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้และความเชี่ยวชาญ พร้อมรองรับการขยายโอกาสทางธุรกิจ ทั้งบริษัทในกลุ่ม ปตท. และภาคธุรกิจต่างๆ ในด้านการบริหารจัดการความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cybersecurity) รวมถึงการทำ Application Modernization ซึ่งเป็นการพัฒนาปรับปรุงแอปพลิเคชันต่างๆ ให้ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ เหมาะสมกับลักษณะการใช้งานและเทคโนโลยีในปัจจุบัน เช่น การพัฒนาแอปพลิเคชันบนคลาวด์ (Cloud native application) ช่วยให้องค์กรจัดการต้นทุนได้คุ้มค่าและตอบโจทย์การใช้งานมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังสนับสนุนการใช้งาน Modern Devices เช่น Microsoft Surface อุปกรณ์แทบเล็ตที่มีการออกแบบให้มีประสิทธิภาพ และความปลอดภัยสูง มีความคล่องตัวในการใช้งานฟังก์ชัน และประสิทธิภาพเช่นเดียวกับ Notebook สามารถรองรับการทำงานแบบไฮบริด (Hybrid Work) โดย PTT Digital เตรียมพร้อมที่จะให้บริการรองรับองค์กรและภาคธุรกิจในยุค Digital Transformation
ระบบป้องกันความปลอดภัยทางไซเบอร์ หรือ Cybersecurity นับเป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญภายใต้การพัฒนากลุ่มอุตสาหกรรมดิจิทัล และคาดการณ์ว่าจะมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในทุกภาคส่วน ลดความเสี่ยงของการสูญเสียจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ได้อย่างมหาศาล โดยจะช่วยสนับสนุนให้ธุรกิจต่างๆ สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างปลอดภัยและมีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น
นายกวีศักดิ์ บุญเฉลียว กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด กล่าวว่า “ทุกวันนี้ ความเสี่ยงด้านไซเบอร์มีโอกาสเกิดได้ง่ายขึ้น ทั้งจากการรั่วไหลของข้อมูล หรือ ถูกโจมตีทางไซเบอร์ เนื่องจากภาคธุรกิจต่าง ๆ มีการเชื่อมต่อข้อมูลและใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ ในรูปแบบ Hybrid Cloud computing มากขึ้น โดย PTT Digital ในฐานะผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในระดับ Enterprise ได้ตระหนักถึงความสำคัญในด้าน Cybersecurity มาโดยตลอด จึงเตรียมพร้อมในการวางแผนบริหารความเสี่ยงด้านไซเบอร์ (Cyber Risk Management) ให้มีประสิทธิภาพและรัดกุมมากยิ่งขึ้น เพื่อมุ่งยกระดับการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ของภาคธุรกิจให้มีมาตรฐานสูงยิ่งขึ้น โดย PTT Digital ให้ความสำคัญทั้งในส่วนของโซลูชันที่ช่วยเสริมแกร่งการให้บริการด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ในองค์กร ตอบโจทย์โมเดล Zero Trust ของ Microsoft ซึ่งเป็นรูปแบบการรักษาความปลอดภัยสมัยใหม่ที่ปรับเปลี่ยนตามความซับซ้อนของสภาพแวดล้อม พร้อมขยายขอบเขตการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ได้แบบไร้ขีดจำกัด รวมถึงพัฒนาทักษะในส่วนของบุคลากรให้มีความรู้ความเชี่ยวชาญ ด้าน Cybersecurity และการนำโซลูชันของ Microsoft มาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดโดยเป็นไปตามมาตรฐาน Microsoft เพื่อให้สามารถรับมือกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่มีวิวัฒนาการในอนาคตได้อย่างทันท่วงที”
นอกจากจะช่วยยกระดับการดำเนินงานและการให้บริการ และองค์ความรู้ความเชี่ยวชาญในด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยบนไซเบอร์ในขั้นสูงแล้ว การพัฒนาแอปพลิเคชันให้ทันสมัยใหม่และปลอดภัย เป็นอีกหนึ่งเป้าหมายสำคัญของ PTT Digital ซึ่งความร่วมมือระหว่าง PTT Digital และ Microsoft ในครั้งนี้ เป็นการยกระดับองค์ความรู้ให้พร้อมรองรับนวัตกรรมใหม่ๆ รวมถึงแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดด้านการให้บริการพัฒนา Application Modernization สนับสนุนการปรับปรุงโครงสร้างของแอปพลิเคชันให้ทันสมัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งนี้เพื่อเพิ่มความคล่องตัวและขีดความสามารถขององค์กรธุรกิจต่างๆ พร้อมรองรับการขยายตัวทางธุรกิจและการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืนในยุคดิจิทัล
นายธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ไมโครซอฟท์มีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่จะได้ร่วมมือกับพันธมิตรที่ยอดเยี่ยมอย่าง PTT Digital ในการเร่งให้เกิด digital transformation ผมเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าเมื่อนวัตกรรมจากไมโครซอฟท์มาบูรณาการกับความสามารถอันยอดเยี่ยมของทีมงาน PTT Digital เราจะสามารถสร้างสรรค์ให้เกิดการพัฒนาและทำงานร่วมกันเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผมมั่นใจว่าทั้งสององค์กรจะสามารถเป็นกำลังสำคัญในการนำดิจิทัลเข้ามาสนับสนุนภารกิจต่าง ๆ มากมาย ทั้งในแง่การรับมือภาวะวิกฤต หรือ การสร้างการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างยั่งยืน ต้องขอขอบคุณ PTT Digital ที่ไว้วางใจในเทคโนโลยีของไมโครซอฟท์ ขอบคุณทีมงานของทั้งสองฝ่ายที่ทำให้ความร่วมมือนี้เกิดขึ้นได้ และในฐานะ Digital Transformation Accelerator ผมหวังว่าเราจะได้สร้างความสำเร็จให้กับคนไทย ธุรกิจไทย และประเทศไทยร่วมกัน”
การลงนามความร่วมมือข้อตกลงครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญของทั้ง 2 องค์กร ที่จะช่วยพัฒนาทั้งด้านกระบวนการดำเนินงาน และองค์ความรู้ของบุคลากรให้มีความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยีระดับสากล เพื่อก้าวสู่เป้าหมายของทั้งสององค์กรซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญในการสนับสนุนธุรกิจต่างๆ สู่การทำธุรกิจแบบ Digitalization รวมถึงสนับสนุนการทำ Digital Transformation ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น นับเป็นกลไกสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของอุตสาหกรรมดิจิทัลของไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายอุตสาหกรรมใหม่ในอนาคต (New S-Curve)
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : ส่วนการตลาด บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด อาทิตยา สุขาภิรมย์ โทร : 099-2967373 อีเมล : Atitaya.s@pttdigital.com
+
27/02/2023
PTT Digital ผนึก GML สนับสนุนเทคโนโลยีดิจิทัล เสริมความแข็งแกร่งธุรกิจโลจิสติกส์ครบวงจร ตั้งเป้ายกระดับประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางการขนส่งของภูมิภาคอาเซียน
(กรุงเทพฯ – 24 กุมภาพันธ์ 2566) นายเทอดเกียรติ พร้อมมูล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลยุทธ์องค์กรและความยั่งยืน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และประธานกรรมการ บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด เป็นประธานในการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่าง บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด (PTT Digital) ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของบริษัทกลุ่ม ปตท. และบริษัท โกลบอล มัลติโมดัล โลจิสติกส์ จำกัด (GML) ดำเนินธุรกิจโลจิสติกส์และแพลตฟอร์มแบบครบวงจร ทั้งทางบก และทางอากาศ รวมถึงการขนส่งควบคุมความเย็น การบริหารจัดการคลังสินค้าห้องเย็น และบริการให้เช่าอุปกรณ์ด้านโลจิสติกส์ เพื่อเชื่อมต่อโครงสร้างพื้นฐานด้านโลจิสติกส์กับทุกภูมิภาคทั่วโลก โดยมีนายกวีศักดิ์ บุญเฉลียว กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด และ นายไกรยสิทธิ์ อินทรพาณิชย์ รักษาการกรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลบอล มัลติโมดัล โลจิสติกส์ จำกัด ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) โครงการศึกษาและทดสอบ Logistic Platform ของ PTT Digital ร่วมกับ GML เพื่อสนับสนุนด้านเทคโนโลยีดิจิทัลให้กับการพัฒนาธุรกิจทางด้านการขนส่งของ GML โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับประเทศไทยให้พร้อมรองรับในการเป็นศูนย์กลางการขนส่งของภูมิภาคอาเซียน สอดคล้องกับทิศทางแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 และอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ New S-Curve ซึ่งเป็นหัวใจหลักของกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ และยังเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ของ ปตท. ด้วยเช่นกัน
นายกวีศักดิ์ บุญเฉลียว กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด กล่าวว่า “ธุรกิจด้านโลจิสติกส์ ถือเป็นหนึ่งในธุรกิจที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในหลายภาคธุรกิจมีเป้าหมายการขยายธุรกิจใหม่ที่จะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้ครอบคลุมการขนส่งสินค้าแบบครบวงจร ทั้งทางบกและทางอากาศ รวมถึงการขนส่งควบคุมความเย็น บริหารจัดการคลังสินค้าห้องเย็น และบริการให้เช่าอุปกรณ์ด้านโลจิสติกส์ ควบคู่กับการพัฒนาดิจิทัลแพลตฟอร์ม ซึ่งภาคธุรกิจต่างมองหาเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่จะเข้ามาช่วยบริหารจัดการเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน และลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ให้กับผู้ประกอบการที่ปัจจุบันอยู่ที่ 13% ของ GDP หรือราว 2 ล้านล้านบาท ให้มีต้นทุนที่ลดลง จึงเป็นที่มาของความร่วมมือกับ GML ในการนำระบบ HERMES Platform ซึ่งเป็นระบบควบคุมและติดตามยานพาหนะแบบครบวงจรที่ PTT Digital พัฒนาและให้บริการเข้ามาช่วยยกระดับแผนการดำเนินธุรกิจในรูปแบบการขนส่งที่หลากหลายของ GML ให้ประสบความสำเร็จได้มากขึ้น”
การลงนามครั้งนี้ นับเป็นการขับเคลื่อนครั้งสำคัญของไทยในการสนับสนุนด้านเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อพัฒนาธุรกิจด้านการขนส่งของ GML ให้มีประสิทธิภาพและความคล่องตัวมากขึ้น โดยแบ่งธุรกิจ GML ภายใต้ความร่วมมือฉบับนี้ เป็น 3 กลุ่มหลัก ๆ ประกอบด้วย
1. ศึกษากระบวนการ RAIL AND TERMINAL BUSINESS ของ GML รวมถึงการออกแบบเอกสารการขนส่งและการติดตามรถไฟและเสนอแนะวิธีการที่เหมาะสม โดยนำ HERMES Platform ระบบควบคุมและติดตามการขนส่งที่ออกแบบ และพัฒนาโดย PTT Digital มาใช้ในการบริหารการขนส่งผ่านทางรถไฟ เช่น การ Tracking สถานะการจัดส่งสินค้าตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง การจองตู้ container รวมถึงการจัดทำรายงานและเอกสารการขนส่งที่เกี่ยวข้องจากข้อมูลในส่วนเชื่อมต่อข้อมูลกับระบบ HERMES Platform อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ปฏิบัติงาน เหมาะกับกลุ่มธุรกิจที่ต้องการขนส่งสินค้าผ่านทางรถไฟหรือระบบราง (Rail and Terminal)
2. AIR LOGISTICS BUSINESS เพื่อสนับสนุนการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้ในการรองรับธุรกิจการขนส่งทางอากาศ เช่น การบริหารจัดการคลังสินค้า (Air Cargo Terminal Management) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ กระบวนการจัดการและการขนส่งสินค้าทั้งในและต่างประเทศให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เหมาะกับกลุ่มธุรกิจที่ต้องการขนส่งสินค้าผ่านทางอากาศ ทั้งการนำเข้าและส่งออกสินค้าในทุกภาคธุรกิจ
3. COLD CHAIN BUSINESS เพื่อสนับสนุนการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้ในการรองรับธุรกิจการขนส่งสินค้าที่ต้องการการจัดเก็บและการขนส่งแบบควบคุมอุณหภูมิและความชื้นให้เหมาะสมกับสินค้า เช่น การซื้อและขายผลผลิตทางการเกษตรในรูปแบบของ Digital International Trading โดย PTT Digital จะพัฒนา Trading Platform ให้กับ GML เพื่อใช้เป็นช่องทางกลางในการซื้อขายผลผลิตทางการเกษตร
นายไกรยสิทธิ์ อินทรพาณิชย์ รักษาการกรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลบอล มัลติโมดัล โลจิสติกส์ จำกัด กล่าวว่า “การร่วมมือกันระหว่าง GML และ พีทีที ดิจิตอล ในครั้งนี้ เป็นโอกาสที่จะบูรณาการความสามารถด้านเทคโนโลยีของ พีทีที ดิจิตอล และความสามารถในการพัฒนาธุรกิจโลจิสติกส์ของ GML ที่จะร่วมกันพัฒนาแพลตฟอร์มโลจิสติกส์พร้อมทั้งขยายโอกาสทางธุรกิจ และช่วยเสริมความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ รวมถึงเป็นอีกหนึ่งบทบาทสำคัญของ กลุ่ม ปตท. ที่ต่างมีวิสัยทัศน์ร่วมกันที่จะมุ่งมั่นสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาการค้าของประเทศ โดยพัฒนาระบบการทำงานที่ทันสมัยในการสนับสนุนธุรกิจด้านการขนส่งทางราง การขนส่งทางอากาศ และการขนส่งรูปแบบ Cold Chain นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มช่องทางจำหน่ายสินค้าของไทยที่มีคุณภาพ ผ่านการรับรองตามมาตรฐานสากล เพื่อส่งไปจำหน่ายในตลาดต่างประเทศ และเป็นการยกระดับความสามารถในการแข่งขัน รวมถึงสร้างโอกาสสู่การพัฒนาธุรกิจโลจิสติกส์ไทยให้ก้าวไกลในเวทีโลก”
ทั้งนี้ PTT Digital และ GML มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาและต่อยอดเทคโนโลยีต่าง ๆ รวมถึงระบบควบคุมและติดตามการขนส่ง (Logistic tracking platform) ที่ออกแบบเพื่อรองรับการทำ Solution ด้าน Logistic ซึ่งจะสามารถช่วยผู้ประกอบการหรือผู้ใช้งานให้สามารถบริหารจัดการติดตามการขนส่งทั้งกระบวนการได้อย่างครบวงจร สามารถบริหารจัดการต้นทุนโลจิสติกส์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่การจัดการสินค้าคงคลัง การขนส่งจากต้นทางสู่จุดหมายปลายทาง และการซ่อมบำรุงเพื่อตอบโจทย์ในด้าน Smart Supply Management, Smart IoT, Smart Logistics และ Smart Maintenance เป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ประเทศไทยมีความพร้อมในการรองรับการเป็นศูนย์กลางการขนส่งของภูมิภาคอาเซียน ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 และอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ New S-Curve อีกด้วย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : ส่วนการตลาด บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด อาทิตยา สุขาภิรมย์ โทร : 02-1402147 อีเมล : Atitaya.s@pttdigital.com
+
16/02/2023
3 ผู้นำแห่งวงการเทคฯ พีทีที ดิจิตอล จีเอเบิล และเบลนเดต้า
ผนึกกำลัง ร่วมสร้างโอกาสจาก Big Data เสริมแกร่งบริษัทกลุ่ม ปตท.
(กรุงเทพฯ – 14 ธันวาคม 2565) บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด (PTT Digital) ผู้นำด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของบริษัทกลุ่ม ปตท. กับบริษัท จีเอเบิล จำกัด (มหาชน) หรือ G-Able ผู้นำด้าน Tech Enabler ที่ช่วยยกระดับธุรกิจสู่ยุคดิจิทัล และบริษัท เบลนเดต้า จำกัด (Blendata) บริษัทผู้พัฒนาแพลตฟอร์มบริหารจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ร่วมลงนามความร่วมมือ (MOU) เพื่อศึกษาและพัฒนาโซลูชันจากเทคโนโลยี Big Data ที่จะสร้างโอกาสในการพัฒนาธุรกิจ และเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันให้กับภาคธุรกิจและบริษัทในกลุ่ม ปตท.
ภายในงาน นายกวีศักดิ์ บุญเฉลียว กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด ร่วมลงนามความร่วมมือฯ กับ ดร.ชัยยุทธ ชุณหะชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จีเอเบิล จำกัด (มหาชน) และนายณัฐนภัส รชตะวิวรรธน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท เบลนเดต้า จำกัด ณ ห้องประชุม พลังไทย อาคาร 1 บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) สำนักงานใหญ่
นายกวีศักดิ์ บุญเฉลียว กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด กล่าวว่า “การผนึกกำลังในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวแรกในการยกระดับการให้บริการโซลูชั่นด้านการบริหารจัดการข้อมูล (Data Management) และ แพลตฟอร์มการวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics Platform) เพื่อเสริมศักยภาพให้บริษัทกลุ่ม ปตท. เป็น Data Driven Organization บริหารจัดการธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านการศึกษาและพัฒนาการให้บริการร่วมกัน ระหว่างพีทีที ดิจิตอล ที่มีความพร้อมทั้งทีมงานที่เชี่ยวชาญในการดูแลโครงสร้างระบบทั้งหมดของบริษัทกลุ่ม ปตท. และให้บริการด้าน Big Data กับบริษัทกลุ่ม ปตท. อย่างใกล้ชิดผสานความแข็งแกร่งด้วยประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการข้อมูลของ จีเอเบิลในฐานะผู้นำด้าน Tech Enabler และการนำแพลตฟอร์มบริหารจัดการและวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) จากเบลนเดต้าเพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจสู่ยุคดิจิทัล ”
ดร.ชัยยุทธ ชุณหะชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จีเอเบิล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ความร่วมมือกับ พีทีที ดิจิตอล และ เบลนเดต้า ในครั้งนี้จะเป็นการศึกษาพัฒนา มุ่งยกระดับการจัดการและวิเคราะห์ข้อมูลด้วยเทคโนโลยี โดยนำนวัตกรรมและดิจิทัลเทคโนโลยีจากทั้งจีเอเบิล และความเชี่ยวชาญด้าน Big Data และ Analytics รวมถึง แพลตฟอร์มของเบลนเดต้า มาร่วมกันเพื่อนำเสนอและสร้างโซลูชั่นใหม่ๆ ให้ตอบโจทย์บริษัทในกลุ่ม ปตท.และองค์กรธุรกิจอื่นๆ โดยการนำ Big Data ของบริษัทในกลุ่มปตท.ที่มีอยู่อย่างมหาศาลมาประมวลผลเพื่อหาโอกาสทางธุรกิจ นอกจากนี้ยังเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ของทั้ง 3 องค์กร เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจให้มีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งเสริมความแข็งแกร่งในการทำงานอย่างครบวงจร อีกทั้งยังเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจทั้งในระยะสั้นและระยะยาว”
นายณัฐนภัส รชตะวิวรรธน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท เบลนเดต้า จำกัด กล่าวว่า “การผนึกกำลังครั้งสำคัญนี้ เบลนเดต้าได้นำแพลตฟอร์มบริหารจัดการและวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ที่ใช้งานง่าย เร็ว และมีประสิทธิภาพสูง มาช่วยตอบโจทย์ความต้องการด้านข้อมูลให้กับพีทีที ดิจิตอล แบบ All-in-One และสามารถนำไปพัฒนาต่อยอดใช้งานกับแต่ละ Use Case ได้อย่างเหมาะสม พร้อมทั้งได้นำทีมบุคลากรที่มีประสบการณ์และมีความเข้าใจด้านการใช้เทคโนโลยีขับเคลื่อนธุรกิจเป็นอย่างดี เข้าไปช่วยเสริมศักยภาพการปฏิบัติงานให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นทีมวิศวกรข้อมูล นักวิเคราะห์ข้อมูล และนักวิทยาศาสตร์ข้อมูล เราจึงมีความเชื่อมั่นว่าความร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญที่จะช่วยให้ พีทีที ดิจิตอล และธุรกิจในกลุ่มปตท. สามารถพลิกโฉมธุรกิจสู่เป้าหมายการเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data Driven) รวมถึงเป็นรากฐานในการสร้างโอกาสและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อเพิ่มมูลค่าทางธุรกิจในอนาคต ”
สำหรับความร่วมมือของทั้ง 3 องค์กรในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญ ในการนำเทคโนโลยีมาช่วยเสริมสร้างรากฐานความแข็งแกร่ง ยกระดับศักยภาพธุรกิจกลุ่มพลังงาน น้ำมัน ก๊าซ ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ โดยการนำข้อมูลมาบูรณาการร่วมกัน และพัฒนาฐานข้อมูล Big Data เพื่อใช้ประโยชน์จากข้อมูลอย่างสูงสุด ในการตัดสินใจและขยายธุรกิจใหม่ๆ รวมถึงเพื่อกระจายความเสี่ยงในธุรกิจเดิมไปยังภาคอุตสาหกรรมอื่น ๆ โดยสามารถตอบโจทย์การทำงานขององค์กรได้อย่างสมบูรณ์แบบ เพื่อโอกาสการเติบโตอย่างก้าวกระโดดทั้งในปัจจุบันและในอนาคต
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : ส่วนการตลาด บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด อาทิตยา สุขาภิรมย์ โทร : 02-1402147 อีเมล : Atitaya.s@pttdigital.com
+
23/12/2022
พีทีที ดิจิตอล ผนึกกำลัง ไปรษณีย์ไทย อัปสกิลขนส่งด้วยดิจิทัลโซลูชัน
รุกเพิ่มประสิทธิภาพงานควบคุมและระบบติดตามการขนส่ง
ทันทุกการเติบโตอีคอมเมิร์ซ
(กรุงเทพฯ – 15 ธันวาคม 2565) บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด ผู้ให้บริการเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของกลุ่ม ปตท. ผนึกความร่วมมือกับ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ผู้นำด้านการขนส่งพัสดุชั้นนำของประเทศไทย เสริมประสิทธิภาพการให้บริการขนส่งในยุคดิจิทัลผ่านการทดลองการใช้งานระบบ Hermes Platform ซึ่งเป็นระบบควบคุมและติดตามยานพาหนะแบบครบวงจร ครอบคลุมฟังก์ชั่น GPS Tracking เพื่อระบุตำแหน่งพิกัดรถโดยสาร รวมถึงสามารถดูรอบการขนส่ง และติดตามพฤติกรรมของพนักงานขับรถ เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจขนส่งและอีคอมเมิร์ซที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเบื้องต้นไปรษณีย์ไทยร่วมกับพีทีที ดิจิตอลนำร่องศึกษาการใช้งานระบบ Contract Management และ Transportation Management เพื่อบริหารจัดการสัญญาระหว่างไปรษณีย์ไทยและ คู่ค้าผู้ขนส่งให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัล รวมถึงพัฒนาการบริหารจัดการการขนส่งให้มีศักยภาพมากขึ้น ในอนาคต
นายกวีศักดิ์ บุญเฉลียว กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด กล่าวว่า “หนึ่งในพันธกิจของ บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด (PTT Digital) คือ การมุ่งมั่นพัฒนาและผลักดันการใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศในองค์กรธุรกิจต่างๆ ให้เกิดขึ้นอย่างแพร่หลาย เพื่อให้องค์กรสามารถบริหารจัดการธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในยุคดิจิทัล โดยธุรกิจขนส่งถือเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาที่มีผู้ใช้บริการขนส่งในชีวิตประจำวันเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก แต่ในขณะเดียวกัน ผู้ขนส่งก็ต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงทั้งจากการแข่งขันที่รุนแรงจากการเข้ามาของผู้ประกอบการรายใหม่ และปริมาณการขนส่งที่เพิ่มขึ้นในแต่ละวัน ด้วยเหตุนี้ ทำให้ผู้ประกอบการขนส่งต้องนำเอาเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาพัฒนาการบริการให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ามากขึ้น ทั้งในด้านคุณภาพการบริการ และความรวดเร็วในการจัดส่งสินค้า จึงเป็นที่มาของความร่วมมือกับ ไปรษณีย์ไทย ในการนำระบบ Hermes Platform ซึ่งเป็นระบบควบคุมและติดตามยานพาหนะแบบครบวงจรที่ พีทีที ดิจิตอล พัฒนาและให้บริการรองรับการขนส่งรถขนส่งน้ำมันอยู่ในปัจจุบัน มาสนับสนุนและบริหารจัดการรอบการขนส่ง เส้นทางการขนส่ง รวมถึงควบคุมการตรวจสอบและจ่ายค่าขนส่ง สนับสนุนการดำเนินงานของไปรษณีย์ในครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นการยกระดับการขนส่งพัสดุสู่รูปแบบดิจิทัล และก่อให้เกิดประสิทธิภาพในการบริการขนส่งได้รวดเร็วมากขึ้น”
จากพฤติกรรมผู้บริโภคในยุคดิจิทัลที่นิยมซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น ทั้งนี้ ข้อมูลจากศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารพาณิชย์ (EIC) พบว่า ยอดการขนส่งพัสดุในปี 2563 มีจำนวนไม่ต่ำกว่า 4 ล้านชิ้นต่อวัน ขยายตัวเพิ่มขึ้น 35% จากปี 2562 และคาดว่าในปี 2565 จะเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 7 ล้านชิ้นต่อวัน
ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า “ไปรษณีย์ไทยเล็งเห็นความสำคัญในการสร้างความแตกต่างด้านการบริการในทุกมิติ ผ่านการนำเทคโนโลยีต่างๆ มาพัฒนาบริการรูปแบบใหม่ๆ เพื่อให้การทำงานคล่องตัว และลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดี อยู่เสมอ สำหรับการร่วมมือกับพีทีที ดิจิตอล ในครั้งนี้ ถือเป็นการต่อยอดการบริหารจัดการขนส่ง ของไปรษณีย์ไทยสู่ดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบยิ่งขึ้น ซึ่งเบื้องต้นจะทดลองการใช้งานระบบ Contract Management และ Transportation Management ที่อยู่ในระบบ Hermes เข้ามาติดตั้งในไปรษณีย์ไทยและรถขนส่งไปรษณีย์ ซึ่งจะช่วยให้กระบวนการบริหารจัดการกับคู่ขนส่งเป็นระบบมากขึ้น อีกทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจสอบรถขนส่งได้อย่างแม่นยำ ทำให้สามารถจัดการกับปริมาณพัสดุที่เพิ่มขึ้นในแต่ละวันได้อย่างรวดเร็ว”
“ไปรษณีย์ไทยเห็นความสำคัญของการนำบิ๊กดาต้า และระบบดิจิทัลต่างๆ มาใช้กับเครือข่าย โลจิสติกส์ขององค์กรที่มีขนาดใหญ่และครอบคลุมทุกพื้นที่ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งพลังที่จะทำให้ผู้ใช้บริการได้รับความพึงพอใจในด้านคุณภาพบริการมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกับการนำจ่ายพัสดุ เอกสารสำคัญ ความปลอดภัยตลอดเส้นทาง กระบวนการต่าง ๆ ที่สามารถตรวจสอบได้ และยังถือเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งของธุรกิจขนส่งและการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศเข้าด้วยกัน ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพการดำเนินธุรกิจของไปรษณีย์ไทยให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าในยุคดิจิทัลได้ตรงใจ พร้อมขับเคลื่อนให้ไปรษณีย์ไทยเป็นขนส่งดิจิทัลเต็มรูปแบบ และครองความเป็นผู้นำในตลาดขนส่งได้อย่างต่อเนื่อง”
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : ส่วนการตลาด บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด อาทิตยา สุขาภิรมย์ โทร : 02-1402147 อีเมล : Atitaya.s@pttdigital.com
+
27/09/2022
PTT Digital จับมือ Netizen ผนึกกำลังทรานส์ฟอร์มธุรกิจ SMB สู่
Intelligent Enterprise รุกหน้าด้วย SAP S/4HANA Public Cloud
เป็นรายแรกของประเทศไทย
(กรุงเทพฯ : 22 กันยายน 2565) นายเทอดเกียรติ พร้อมมูล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลยุทธ์องค์กรและความยั่งยืน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และประธานกรรมการ บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด เป็นประธานการลงนามในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่าง บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด ผู้ให้บริการเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของ กลุ่ม ปตท. กับบริษัทชั้นนำด้านการวางระบบคลาวด์อีอาร์พี (Cloud ERP)และ บริษัท เนทติเซนท์ จำกัด (Netizen) ซึ่งเป็น Platinum Partner ระดับสูงสุดของ SAP และพันธมิตร United VARs แต่เพียงรายเดียวในประเทศไทย เพื่อนำโซลูชัน SAP S/4HANA Public Cloud มายกระดับการให้บริการเทคโนโลยีสนับสนุนการบริหารจัดการองค์กร รองรับการขยายตัวของภาคธุกิจ SMB ของทั้งในและนอกกลุ่ม ปตท. อย่างมีประสิทธิภาพ และรวดเร็ว
ภายในงาน นายกวีศักดิ์ บุญเฉลียว กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด ร่วมลงนามความร่วมมือในการใช้งาน SAP S/4HANA Public Cloud กับ นายเสรี สาธุกิจชัย ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร บริษัท เนทติเซนท์ จำกัด ผู้ให้บริการด้านการวางระบบเอสเอพี คลาวด์ อีอาร์พี (SAP Cloud ERP) ณ ห้องประชุม พลังไทย อาคาร 1 บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) สำนักงานใหญ่
การผนึกความร่วมมือในครั้งนี้เป็นการพลิกโฉมวงการผู้ให้บริการระบบ SAP ERP ครั้งใหญ่ เนื่องจากเป็นความร่วมมือที่ผนึกความแข็งแกร่งของพีทีที ดิจิตอล (PTT Digital) ซึ่งมีประสบการณ์ในการให้บริการพัฒนาและสนับสนุนระบบไอทีให้กับบริษัทกลุ่มปตท. จึงมีความชำนาญในเทคโนโลยีที่หลากหลาย ประกอบกับความพร้อมด้านบุคลากรและประสบการณ์ในธุรกิจไอทีกว่า 16 ปี ร่วมกับเนทติเซนท์ (Netizen) ซึ่งมีประสบการณ์ในการพัฒนาระบบคลาวด์อีอาร์พี (Cloud ERP) ในหลากหลายอุตสาหกรรม มากกว่า 20 ปี และมี Business Scenario ในการพัฒนาระบบ ERP ให้ประสบความสำเร็จทั้งในไทยและต่างประเทศ โดยความร่วมมือครั้งนี้ ทั้ง 2 องค์กรมุ่งหวังในการนำความรู้ความสามารถขององค์กรมาช่วยพัฒนาและยกระดับธุรกิจ SMB ในประเทศไทยด้วย SAP S/4HANA Public cloud ตัวใหม่ให้สามารถเติบโตและแข่งขันได้ในระดับสากล
นายเทอดเกียรติ พร้อมมูล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลยุทธ์องค์กรและความยั่งยืน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และประธานกรรมการ บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด หรือ พีทีที ดิจิตอล กล่าวว่า “ในฐานะผู้ให้บริการเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่ให้การสนับสนุนและบริการด้านเทคโนโลยี รวมถึง SAP Solutions แก่บริษัทกลุ่ม ปตท. มาอย่างยาวนาน พีทีที ดิจิตอล เล็งเห็นประโยชน์ที่องค์กรภาคธุรกิจในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลุ่มธุรกิจ SMB จะได้รับจากความร่วมมือในครั้งนี้ เนื่องจากเป็นการยกระดับศักยภาพการให้บริการ SAP S/4HANA Public Cloud แบบครบวงจร และเป็นรายแรกของประเทศไทย เพิ่มทางเลือกให้ธุรกิจ SMB ในการรับบริการที่ครอบคลุมตั้งแต่การออกแบบ พัฒนาและดูแลระบบ รวมถึงบริหารจัดการ SAP S/4HANA on Cloud license ตอบโจทย์การขับเคลื่อนธุรกิจที่วางระบบฐานข้อมูลบน Public Cloud ให้เป็น Data Driven Organization อย่างเต็มรูปแบบ”
ปัจจุบันองค์กรธุรกิจต่างใช้โอกาสในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 ปรับกลยุทธ์และแนวทางในการดำเนินธุรกิจใหม่ ผ่านการพลิกโฉมเป็นองค์กรดิจิทัลอย่างรวดเร็ว เพื่อให้องค์กรมีความคล่องตัวและยืดหยุ่นมากขึ้น เสริมความแข็งแกร่งในการรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ผลการศึกษาล่าสุดจาก เอสเอพี ระบุว่า 81% ของบริษัทในกลุ่ม SMB ของไทย มองว่าการทรานส์ฟอร์มเป็นองค์กรดิจิทัลมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการอยู่รอดขององค์กร ด้วยเหตุนี้กลยุทธ์ของ พีทีที ดิจิตอล จึงมุ่งเน้นไปที่การสร้างมาตรฐานด้วยเทคโนโลยีเพื่อให้บริษัทกลุ่ม ปตท. และภาคธุรกิจอื่นๆ โดยเฉพาะภาคธุรกิจ SMB สามารถยกระดับศักยภาพการขับเคลื่อนธุรกิจด้วย SAP S/4HANA Public Cloud แบบครบวงจรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ นายกวีศักดิ์ บุญเฉลียว กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า “การนำเทคโนโลยี SAP S/4HANA Public Cloud จากบริษัทเนทติเซนท์ ร่วมกับ บริการของพีทีที ดิจิตอล มาให้บริการเป็นโซลูชันแบบครบวงจรกับกลุ่มธุรกิจ SMB จะทำให้ภาคธุรกิจได้รับประโยชน์โดยตรง ด้านการลงทุนโดยนำเทคโนโลยีระดับ Enterprise มาใช้ในอัตราการลงทุนที่ธุรกิจสามารถเข้าถึงได้ โดยความร่วมมือครั้งนี้จะสร้างความมั่นใจให้กับธุรกิจ SMB ในการนำเทคโนโลยี SAP S/4HANA Public Cloud มายกระดับธุรกิจ ด้วยบริการของทีมงานที่มีความพร้อมทั้งประสบการณ์และความชำนาญ จากทั้ง 2 องค์กร ผ่านความร่วมมือในการพัฒนาบุคลากรร่วมกันรองรับการขยายตัวของธุรกิจ SMB ให้ทันต่อความต้องการในตลาด”
นายเสรี สาธุกิจชัย ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร บริษัท เนทติเซนท์ จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า “ทีมงานที่ปรึกษาเนทติเซนท์และพันธมิตร United VARs กว่า 10,000 คน มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์กว่าสองทศวรรษในการวางระบบเอสเอพี (SAP) อีกทั้งยังเป็นผู้นำในการวางระบบคลาวด์ อีอาร์พี (Cloud ERP) ภายใต้โซลูชั่นพีโอนี่ (Peony) ที่ผนวก SAP S/4HANA Public Cloud เข้ากับ Business Process Scenario ตอบโจทย์การใช้งานของธุรกิจ SMB ที่ใช้ต้นทุนไม่สูง ระยะเวลาสั้น พร้อมแพลตฟอร์ม Origami Project Management ในการช่วยวางระบบให้โครงการประสบความสำเร็จได้ง่ายขึ้น การันตีความสำเร็จด้วยรางวัล SAP Partner of the year (SEA) ถึง 5 ปีซ้อน สร้างความมั่นใจได้ว่า เนทติเซนท์จะสามารถนำเสนอเทคโนโลยี SAP S/4HANA Public Cloud ที่ทันสมัย มีมาตรฐานให้ธุรกิจ SMB ในประเทศไทยได้ใช้งาน รองรับการขยายธุรกิจโดยไร้ขีดจำกัด พร้อมความเข้าใจรูปแบบการทำงานของธุรกิจในประเทศไทย ตอบสนองการให้บริการแบบพันธมิตรที่ไม่เหมือนใคร”
เกี่ยวกับ บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด
บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศในระดับ Enterprise ให้บริการอย่างครบวงจรให้บริการตั้งแต่ออกแบบ พัฒนาระบบและดูแลรักษาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ด้วยบุคคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์ในหลากหลายเทคโนโลยี มากกว่า 1,000 คน ด้วยประสบการณ์ให้บริการมา 16 ปี กว่า 9,000 โครงการ จึงทำให้มั่นใจได้ว่า พีทีที ดิจิตอล พร้อมที่จะให้บริการ เพื่อยกระดับศักยภาพขององค์กรภาคธุรกิจ
เกี่ยวกับ บริษัท เนทติเซนท์
บริษัทชั้นนำด้านการวางระบบคลาวด์อีอาร์พี (Cloud ERP) ซึ่งเป็น Platinum Partner ระดับสูงสุดของ SAP และสมาชิก United VARs แต่เพียงรายเดียวในประเทศไทย ด้วยทีมงานมากกว่า 100 คน ประสบการณ์เป็นที่ปรึกษาทั้งในและต่างประเทศมากกว่า 20 ปี
เกี่ยวกับ SMB
SMB (Small and Mid-size Businesses) คือกลุ่มบริษัทขนาดเล็กและขนาดกลางที่วางแผนการเติบโตโดยมีโมเดลธุรกิจในการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการบริหารจัดการและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันและยกระดับการเติบโตอย่างรวดเร็ว
สำหรับลูกค้าที่สนใจเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ คลาวด์อีอาร์พี สำหรับ SMB : ติดต่อเนติเซนท์: +662 090 6868
ติดต่อทีม Business Commercial: โทร +6698 279 5520 (คุณบิวตี้), marketing@netizen.co.th
สื่อมวลชนสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : ส่วนการตลาด บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด อาทิตยา สุขาภิรมย์ โทร : 02-1402147 อีเมล : Atitaya.s@pttdigital.com
+
12/09/2022
พีทีที ดิจิตอล ผนึกกำลัง อรุณ พลัส
เสริมทัพประสิทธิภาพการบริหารจัดการรถโดยสารไฟฟ้า E-Bus
นำร่องติดตั้งระบบควบคุมและติดตามรถ รองรับการบริหารจัดการการขนส่งครบวงจร
ตอบโจทย์ความสะดวกสบายและความปลอดภัยให้กับผู้ใช้บริการ ขับเคลื่อนต้นแบบนวัตกรรมพลังงานด้านขนส่ง
สาธารณะของไทยที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมรองรับการเติบโตตลาด EV สู่สังคมคาร์บอนต่ำในอนาคต
(กรุงเทพฯ : 21 มิถุนายน 2565) นายเทอดเกียรติ พร้อมมูล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลยุทธ์องค์กรและความยั่งยืน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และประธานกรรมการ บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด เป็นประธานในการลงนามความร่วมมือระหว่าง บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด และ บริษัท อรุณ พลัส จำกัด โดยมี นายกวีศักดิ์ บุญเฉลียว กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด และ นายเอกชัย ยิ้มสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อรุณ พลัส จำกัด (มหาชน) ร่วมลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU) เพื่อเสริมประสิทธิภาพการบริหารจัดการรถโดยสารไฟฟ้า (E-Bus) ด้วยการติดตั้ง และพัฒนาระบบ Hermes Platform ซึ่งเป็นระบบควบคุม และติดตามยานพาหนะแบบครบวงจร ครอบคลุมฟังก์ชั่น GPS Tracking เพื่อระบุตำแหน่งพิกัด รถโดยสาร ระยะเวลาที่รถโดยสารจะเข้าถึงสถานีจอดรับ รวมถึงติดตามพฤติกรรมของพนักงานขับรถ เพื่ออำนวยความสะดวก และเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ผู้โดยสาร โดยจะนำร่องศึกษาการใช้งานระบบฯ กับรถโดยสารไฟฟรีให้บริการแก่พนักงานกลุ่ม ปตท. และประชาชนทั่วไป ที่มาติดต่องาน ณ ศูนย์เอนเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์ (EnCo) เพื่อนำข้อมูลมาพัฒนาการให้บริการให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
นายเทอดเกียรติ พร้อมมูล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลยุทธ์องค์กรและความยั่งยืน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และประธานกรรมการ บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด หรือ พีทีที ดิจิตอล กล่าวว่า “นวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้ากำลังเป็นเทรนด์มาแรงทั่วโลก ด้วยเหตุผลด้านเศรษฐกิจและพลังงาน รวมถึงความคุ้มค่าในการใช้งาน ด้วยความร่วมมือระหว่าง บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด ในฐานะผู้ให้บริการเทคโนโลยีสารสนเทศระดับ Enterprise ของประเทศไทย ในการนำระบบบริหารจัดการการขนส่งเข้ามาใช้ทดลองสนับสนุนการให้บริการรถยนต์ไฟฟ้า ภายในบริเวณ EnCo ที่ดำเนินการโดย บริษัท อรุณ พลัส จำกัด ครั้งนี้ ถือเป็นการยกระดับการให้บริการรถโดยสารพลังงานไฟฟ้าอย่างเต็มรูปแบบ และก่อให้เกิดคุณค่าทางธุรกิจอย่างยั่งยืน”
ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมายานยนต์ไฟฟ้า หรือ Electronic Vehicles (EV) เป็นหนึ่งในเทรนด์ที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นผลมาจากปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม และความต้องการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ (CO2) เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ผู้บริโภคและองค์กรต่าง ๆ มีความต้องการใช้รถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงนวัตกรรมด้านความปลอดภัยที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งสอดรับกับนโยบายการส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าและเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2050 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2065 ของประเทศ
นายเอกชัย ยิ้มสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อรุณ พลัส จำกัด กล่าวว่า อรุณ พลัส มุ่งมั่นที่จะร่วมสร้างระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทยให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้นในทุกมิติ ผ่านการพัฒนานวัตกรรม และเทคโนโลยีให้ตอบสนองต่อไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค โดยได้นำรถโดยสาร E-Bus ที่ผลิตขึ้นใหม่ในประเทศ และผ่านการทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานสูงสุด เข้ามาให้บริการภายในศูนย์ EnCo โดยได้นำระบบ Hermes ที่ควบคุมและติดตามยานพาหนะ ออกแบบ และพัฒนา โดย พีทีที ดิจิตอล มีฟังก์ชั่น รองรับการบริหารจัดการ การขนส่งครบวงจร และมีความปลอดภัยทางด้านไซเบอร์ตามมาตรฐานระดับ Enterprise Standard เข้ามาติดตั้งในรถโดยสาร E-Bus ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ และร่วมขับเคลื่อนระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านขนส่งสาธารณะของไทยที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมรองรับการเติบโตของธุรกิจและตลาด EV ในอนาคต
สำหรับการร่วมมือทางธุรกิจในครั้งนี้ ถือเป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อใช้งานรถโดยสารไฟฟ้า อีกทั้งยังเป็นการปูทางสู่การให้บริการนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งนอกจากการทดสอบระบบการใช้งานเพื่อนำข้อมูลไปพัฒนารถโดยสารไฟฟ้าให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นแล้ว ยังทำให้ Enco ซึ่งเป็นผู้ให้บริการอาคารสำนักงาน และผู้ให้บริการรถโดยสารรับส่งนี้ สามารถติดตามรถและพฤติกรรมของพนักงานคนขับรถได้อย่างแม่นยำ และเพิ่มความปลอดภัยในการขนส่ง อีกทั้ง ยังช่วยลดต้นทุนของการเดินรถ และใช้พลังงานได้อย่างเหมาะสม ในขณะที่พนักงานและประชาชนที่มาติดต่องานจะได้รับความสะดวกสบายในการเดินทางและช่วยลดเวลาจากการเดินทางได้มากขึ้น โดยในอนาคต พีทีที ดิจิตอล และ อรุณ พลัส ยังมีแผนที่จะขยายการให้บริการยานยนต์ไฟฟ้า E-Bus สู่องค์กรภายนอก เพื่อขยายฐานธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นหนึ่งในเมกะเทรนด์ที่กำลังมาแรงอยู่ในขณะนี้อีกด้วย
รายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ : ส่วนการตลาด บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด อาทิตยา สุขาภิรมย์ โทร : 02-1402147 อีเมล : Atitaya.s@pttdigital.com
+
22/06/2022
พีทีที ดิจิตอล จับมือ Zygen
เสริมแกร่งทีมผู้เชี่ยวชาญในการให้บริการเทคโนโลยี IA และ RPA
ระดับ Enterprise ของศูนย์บริการ Intelligent Process Automation Center (IPAC)
วันที่ 5 พฤษภาคม 2565 ณ ห้องพลังไทย ชั้น M อาคาร 2 สำนักงานใหญ่ บริษัท ปตท จำกัด (มหาชน) กรุงเทพฯ คุณกวีศักดิ์ บุญเฉลียว กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัดผู้ให้บริการเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของ กลุ่ม ปตท. และ คุณชลภัทร์ ภูริปัญโญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไซเจ็น จำกัด ผู้ให้คำปรึกษาและบริการโซลูชัน SAP ชั้นนำของไทย ร่วมลงนามความร่วมมือด้านบุคคลากรผู้เชี่ยวชาญเทคโนโลยี Intelligent Automation (IA) และ Robotic Process Automation (RPA) เพื่อรองรับการให้บริการในศูนย์บริการ Intelligent Process Automation Center (IPAC) ที่ PTT Digital จัดตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนการให้บริการเทคโนโลยี IA และ RPA ระดับ Enterprise กับหน่วยธุรกิจในประเทศไทย โดยมีคุณเทอดเกียรติ พร้อมมูล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลยุทธ์องค์กรและความยั่งยืน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ ประธานกรรมการ บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีลงนาม
โดยการผนึกความร่วมมือนี้ จะช่วยเสริมศักยภาพการให้บริการเทคโนโลยี Intelligent Automation ต่อภาคธุรกิจโดยเฉพาะ SME, บริษัทจัดตั้งใหม่, Startup, Innovator และ Digital citizen ขององค์กรต่าง ๆ ให้สามารถเข้าถึง IA และ RPA Ecosystem ด้วยต้นทุนที่คุ้มค่า มาตรฐานระดับสากล อีกทั้ง ยังช่วยยกระดับกระบวนการทำงานขององค์กรธุรกิจให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น พร้อมทั้งเสริมความคล่องตัวในการทำงานอย่างครบวงจร โดยศูนย์บริการ IPAC ที่ PTT Digital เปิดให้บริการนี้ นอกจากจะนำเทคโนโลยี Intelligent Automation ของ บริษัท SS&C Blue Prism บริษัทซึ่งเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี Intelligent Automation (IA) และ Enterprise Robotics Process Automation (RPA) ระดับโลกมาใช้พัฒนาแล้ว ศูนย์บริการ IPAC ยังมีทีมงานซึ่งเป็นบุคลากรผู้ชำนาญการในเทคโนโลยีดังกล่าวเข้ามาแนะนำ และให้บริการสนับสนุนการบริหารจัดการเทคโนโลยี ซึ่งบริษัท ไซเจ็น จำกัด เองมีบุคลากรที่มีความรู้และมีประสบการณ์ในการให้บริการเทคโนโลยี IA และ RPA ในหลากหลายธุรกิจ ความร่วมมือของสององค์กรในครั้งนี้ จึงเสริมศักยภาพความพร้อมด้านบุคลากรที่จะรองรับการให้บริการกลุ่มผู้ใช้งานเทคโนโลยี IA และ RPA ในประเทศไทยที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น จากการนำเทคโนโลยีนี้ไปต่อยอดสนับสนุนงานในหลายฟังก์ชันขององค์กร ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานการเงิน หน่วยงานจัดซื้อจัดจ้าง และหน่วยงานทรัพยากรบุคคล
PTT Digital และ Zygen คาดว่าความร่วมมือในครั้งนี้ จะช่วยผลักดันให้ธุรกิจในประเทศไทย สามารถเข้าถึงเทคโนโลยี IA และ RPA และใช้งานอย่างแพร่หลายมากขึ้น พร้อมสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้งานในเรื่องต้นทุนการใช้เทคโนโลยีให้สามารถเข้าถึงได้แม้มีต้นทุนที่จำกัด ผ่านการเปิดให้บริการในรูปแบบ Subscription ภายใต้แนวคิด Pay-Per-Use ตอบโจทย์การทำงานขององค์กรยุคดิจิทัลอย่างสมบูรณ์แบบ สร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน และยกระดับธุรกิจของประเทศไทย ให้สามารถแข่งขันได้ในระดับสากลต่อไป
รายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ : ส่วนการตลาด บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด อาทิตยา สุขาภิรมย์ โทร : 02-1402147 อีเมล : Atitaya.s@pttdigital.com
+
02/06/2022
‘BE 8’ ผนึกกำลัง ‘PTT Digital’
เสริมแกร่งเทคโนโลยี ปักธงการพัฒนาและให้บริการ CRM Solutions ครบวงจร
หนุนองค์กรทรานส์ฟอร์ม ชูการ Synergy มุ่งขยายฐานลูกค้า
ขับเคลื่อนธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน
(กรุงเทพฯ : 1 มิถุนายน 2565) นายเทอดเกียรติ พร้อมมูล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลยุทธ์องค์กรและความยั่งยืน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และประธานกรรมการ บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด เป็นประธานในการลงนามความร่วมมือด้านเทคโนโลยีระหว่าง บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด และ บริษัท เบริล 8 พลัส จำกัด (มหาชน) โดยมีนายกวีศักดิ์ บุญเฉลียว กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด หรือ PTT Digital และ นายอภิเษก เทวินทรภักติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เบริล 8 พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ BE8 ร่วมลงนามในข้อตกลงจับมือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ (Collaboration Agreement) นำความเชี่ยวชาญของ BE8 ด้าน Digital Transformation และระบบ Salesforce มาพัฒนาร่วมกับความเชี่ยวชาญของ PTT Digital ในด้าน Enterprise Digital Solutions และ Customer Service Operation Excellence เพื่อพัฒนาและส่งมอบ CRM Solutions แบบครบวงจร มุ่งยกระดับประสบการณ์ลูกค้าด้วยเทคโนโลยีระดับโลก ช่วยให้องค์กรธุรกิจตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลางสามารถเข้าถึงเทคโนโลยี และขับเคลื่อนธุรกิจให้ก้าวล้ำจากการลงทุนเทคโนโลยี เสริมสร้างกระบวนการทางธุรกิจ
นายอภิเษก เทวินทรภักติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เบริล 8 พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ BE8 เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ลงนามสัญญาความร่วมมือ (Collaboration Agreement) เป็นพันธมิตรทางธุรกิจร่วมกันพัฒนา และสร้างความแข็งแกร่งในการให้บริการขับเคลื่อนธุรกิจ ทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น ระหว่างบริษัท เบริล 8 พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ BE8 กับ บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด หรือ PTT Digital ผู้ให้บริการเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสารระดับ Enterprise ของกลุ่ม ปตท. โดยการผนึกกำลังครั้งสำคัญนี้ เพื่อนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาร่วมกันเสริมสร้างขีดความสามารถ ในการให้บริการกับองค์กรธุรกิจที่ต้องการขับเคลื่อนกระบวนการทำธุรกิจดิจิทัลดิสรัปชั่นและบริหารจัดการธุรกิจให้มีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ
การผนึกกำลังครั้งสำคัญนี้ เป็นการนำความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีของ BE8 ผู้นำที่ปรึกษาดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นแบบครบวงจร ที่มีความเชี่ยวชาญ ในระบบ Salesforce ด้านการบริหารลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) ผสานความเชี่ยวชาญของ PTT Digital ด้าน Enterprise Digital Solutions System และ Customer Service Operation Excellence เพื่อส่งมอบการให้บริการ CRM Solutions แบบครบวงจร ในรูปแบบการเชื่อมต่อเทคโนโลยี ที่เติมเต็มการนำส่งคุณค่าบริการที่ครบทั้ง Value Chain ให้กับลูกค้า โดยครอบคลุมตั้งแต่การให้บริการออกแบบ พัฒนาและการดูแลระบบงานดิจิทัลและเทคโนโลยีโครงสร้างพื้นฐานระดับองค์กร รวมถึงการให้บริการสนับสนุนองค์กร เพื่อบรรลุเป้าหมายในการให้บริการเทคโนโลยีแก่บริษัทในกลุ่ม ปตท. และธุรกิจอื่นๆ ในอนาคต
“ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างรากฐานความแข็งแกร่ง เพิ่มศักยภาพการแข่งขัน และตอกย้ำการเป็นผู้นำที่ปรึกษาด้าน Digital Transformation อย่างครบวงจร โดยจะช่วยขยายฐานลูกค้าในหลากหลายธุรกิจ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการองค์กรเปลี่ยนผ่านธุรกิจ ให้ก้าวทันกับความเปลี่ยนแปลงกับยุคดิจิทัล ซึ่งจะช่วยทำให้ BE8 เติบโตยั่งยืนจากการมีฐานลูกค้าที่แข็งแกร่ง และหลากหลาย ทั้งกลุ่มองค์กรขนาดใหญ่ หน่วยงานภาครัฐ และ SMEs” นายอภิเษก กล่าว
นายกวีศักดิ์ บุญเฉลียว กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด ซึ่งให้บริการเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร ระดับ Enterprise ของกลุ่ม ปตท. กล่าวว่า “ในสภาวะที่แข่งขันทางธุรกิจที่สูงและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ธุรกิจระดับองค์กรส่วนมากมีการปรับตัวและทำ Digital Transformation กันมากขึ้น เพื่อเสริมประสิทธิภาพในการดำเนินกิจการและพัฒนาให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างยั่งยืน อย่างไรก็ตามด้วยเทคโนโลยีที่มีความซับซ้อนมากขึ้น นอกเหนือจากการวางแผน ออกแบบ และพัฒนา Digital Transformation Solutions ที่ดีแล้ว การเชื่อมโยงเทคโนโลยีต่างๆเข้าด้วยกันและการดูแลเชิงปฏิบัติงานอย่างไร้รอยต่อภายหลังการพัฒนาระบบเสร็จสิ้นเป็นสิ่งจำเป็นและมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน
ทั้งนี้ ความร่วมมือกับ BE8 ในครั้งนี้ถือเป็นการเติมเต็มกระบวนการ Digital Transformation ให้มีความสมบูรณ์มากขึ้น ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ พร้อมทั้งเสริมความคล่องตัวในการทำงานอย่างครบวงจรให้กับภาคธุรกิจ โดยเฉพาะตลาด Market for Alternative Investment (MAI) ที่มุ่งเน้นกลุ่มธุรกิจขนาดกลาง และ SMEs ผ่านการให้บริการของ PTT Digital ที่ให้บริการอย่างมืออาชีพด้วยคุณภาพสากลภายใต้หลักการทำงานที่เรียกว่า “Design-Build-Run” ครอบคลุมตั้งแต่การออกแบบการพัฒนา และ การดูแลรักษาระบบงานที่สอดคล้องกับความต้องการขององค์กรธุรกิจ ด้วยบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยีมีประสบการณ์งานด้านไอทีสูง รวมถึงมีความเข้าใจในธุรกิจที่ต้องการใช้เทคโนโลยีขับเคลื่อนธุรกิจเป็นอย่างดี จึงสามารถตอบสนองความต้องการของธุรกิจ เพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานขององค์กร จึงมั่นใจได้ว่าผู้ใช้บริการจะสามารถพลิกโฉมธุรกิจด้วย Digital Transformation ให้สำเร็จสู่เป้าหมาย และดำเนินธุรกิจภายใต้การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีได้อย่างยั่งยืน
สำหรับความร่วมมือของทั้ง 2 องค์กรครั้งนี้ จะเสริมศักยภาพการให้บริการด้าน CRM Solutions แบบครบวงจร ในรูปแบบการเชื่อมต่อเทคโนโลยี Salesforce ให้กับกลุ่มองค์กรในหลากหลายภาคอุตสาหกรรม เพื่อสนับสนุนการเชื่อมต่อกระบวนการทำงานภายในองค์กรครบทุกฟังก์ชั่นงาน อาทิ แผนกขาย แผนกบริการลูกค้า และแผนกการตลาด อีกทั้งยังเสริมศักยภาพในการยกระดับการสร้างประสบการณ์ลูกค้า ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคดิจิทัล โดยเป้าหมายความร่วมมือในครั้งนี้ ต้องการจะช่วยยกระดับให้ทุกองค์กรธุรกิจสามารถเข้าถึง เทคโนโลยีและเกิดการใช้งานเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจให้ก้าวล้ำกับดิจิทัลดิสรัปชั่น
รายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ : ส่วนการตลาด บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด อาทิตยา สุขาภิรมย์ โทร : 02-1402147 อีเมล : Atitaya.s@pttdigital.com
+
10/05/2022
พีทีที ดิจิตอล ผนึกกำลัง เอสเอสแอนด์ซี บลู ปริซึม
เสริมทัพความแข็งแกร่งจัดตั้ง Intelligent Process Automation Center
สนับสนุนบริการเทคโนโลยี IA และ RPA ระดับ Enterprise ของไทย
(กรุงเทพฯ : 5 พฤษภาคม 2565) นายเทอดเกียรติ พร้อมมูล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลยุทธ์องค์กรและความยั่งยืน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และประธานกรรมการ บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด เป็นประธานในการลงนามความร่วมมือด้านเทคโนโลยีระหว่าง บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด และ บริษัท เอสเอสแอนด์ซี บลู ปริซึม ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ระดับโลกด้านอุตสาหกรรมบริการทางการเงินและการดูแลสุขภาพ โดยมีนายกวีศักดิ์ บุญเฉลียว กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด และ นายกาเรท เลน รองประธานอาวุโส ด้านพันธมิตร และช่องทางการจัดจำหน่าย บริษัท เอสเอสแอนด์ซี บลู ปริซึม ร่วมลงนามความร่วมมือจัดตั้งศูนย์บริการ Intelligent Process Automation Center (IPAC) สนับสนุนการสร้าง Ecosystem การให้บริการเทคโนโลยี IA และ RPA ในระดับ Enterprise เพื่อเข้ามาช่วยยกระดับกระบวนการทำงานขององค์กรธุรกิจให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น พร้อมทั้งเสริมศักยภาพและความคล่องตัวในการทำงานของลูกค้าอย่างครบวงจร ณ ห้องพลังไทย ชั้น M อาคาร 2 สำนักงานใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
คุณเทอดเกียรติ พร้อมมูล ประธานกรรมการ บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด หรือ พีทีที ดิจิตอล กล่าวว่า “บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด ในฐานะผู้ให้บริการเทคโนโลยีสารสนเทศระดับ Enterprise ของประเทศไทย มองเห็นว่าการนำเทคโนโลยี Intelligent Process Automation มาใช้งานจะสามารถเสริมศักยภาพการดำเนินงานในองค์กร และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตามการลงทุนนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาใช้ในระดับ Enterprise ยังมีต้นทุนสูง รวมถึงยังมีข้อจำกัด ในเรื่องของบุคลากรที่เข้ามาบริหารจัดการระบบ ซึ่งจำเป็นต้องมีความเชี่ยวชาญโดยเฉพาะ จึงทำให้ บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด เห็นโอกาสและเป็นที่มาของความร่วมมือกับ บริษัท เอสเอสแอนด์ซี บลู ปริซึม บริษัทซอฟต์แวร์ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยีนี้ เพื่อร่วมกันขยายตลาด IA และ RPA ในประเทศไทย โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจการผลิต กลุ่มธุรกิจการเงิน การธนาคาร การประกันภัย และธุรกิจสุขภาพ”
ด้านคุณกาเรท เลน รองประธานอาวุโส ด้านพันธมิตรและช่องทางการจัดจำหน่าย บริษัท เอสเอสแอนด์ซี บลู ปริซึม กล่าวว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้ร่วมมือกับพีทีที ดิจิตอล ทำให้องค์กรของไทยสามารถนำ RPA หรือระบบซอฟต์แวร์หุ่นยนต์แล IA ไปใช้ผ่านการเสนอแพลตฟอร์มในรูปแบบบริการของเรา การบริการที่ยืดหยุ่นช่วยให้ลูกค้าในด้านค่าใช้จ่ายการลงทุนไปเป็นการบริการแบบสมาชิกภายใต้รูปแบบการจ่ายเมื่อใช้งาน นอกจากนี้ พวกเขาจะได้รับประโยชน์จากแพลตฟอร์มระบบอัตโนมัติอัจฉริยะของเรา ซึ่งให้เข้าถึงได้ทันทีไปยังพนักงานดิจิทัลที่ติดตั้ง “IA” และความสามารถสร้าง มอบหมาย และควบคุมการทำงานอัตโนมัติ”
จากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ถือเป็นตัวเร่งสำคัญที่ทำให้พฤติกรรมคนทำงานเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วสู่การทำงานรูปแบบใหม่ ส่งผลให้หลายๆองค์กรต้องการนำระบบการทำงานแบบอัตโนมัติ (Automation) มาใช้ในธุรกิจ เพื่อปรับรูปแบบการทำงานให้เป็นระบบอัตโนมัติมากขึ้น ทำให้ซอฟต์แวร์ระบบอัตโนมัติ (Intelligent Automation) และระบบจัดการงานแบบอัตโนมัติ (RPA) ขยายตัวอย่างรวดเร็วในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ผลสำรวจจาก Statista เว็บไซต์วิจัยและเก็บสถิติชั้นนำ ระบุว่า ตลาด RPA จะเติบโตเพิ่มขึ้นจากมูลค่าตลาด 2.07 พันล้านดอลลาร์ในปี 2564 เป็น 13.4 พันล้านดอลลาร์ในปี 2573 ขณะที่ในประเทศไทย ปัจจุบันอุตสาหกรรมหุ่นยนต์มีมูลค่าประมาณ 20-23 พันล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนการสำรวจของ Frost & Sullivan คาดการณ์ว่าการใช้จ่ายด้าน AI และ ML ทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นเป็น 1.8 ล้านล้านบาทภายในปี 2564 โดยรายได้จาก AI ในประเทศไทย คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 69.39 พันล้านล้านบาท ภายในปี 2568
สำหรับการร่วมลงนามทางธุรกิจในครั้งนี้นับเป็นการผสานความแข็งแกร่งของ 2 องค์กรชั้นนำครั้งสำคัญ เพื่อนำความเชี่ยวชาญในการพัฒนาเทคโนโลยี IA และ RPA มาเพิ่มศักยภาพในกระบวนการทำงานขององค์กรยุคปัจจุบัน ทั้งยังมุ่งมั่นในการเป็นศูนย์บริการ Intelligent Automation ที่มีความพร้อมทั้งในเรื่องของเทคโนโลยี, แพลตฟอร์ม และบุคลากรที่พร้อมต่อยอดการนำไปใช้สนับสนุนงานให้ครบทุกฟังก์ชั่นงาน อาทิ หน่วยงานการเงิน หน่วยงานจัดซื้อจัดจ้าง และหน่วยงานทรัพยากรบุคคล ฯลฯ รวมถึงจะช่วยเสริมศักยภาพในการให้บริการเทคโนโลยี Intelligent Automation ช่วยภาคธุรกิจ โดยเฉพาะ SME, บริษัทจัดตั้งใหม่, Startup, Innovator และ Digital Citizen เข้าถึง IA และ RPA Ecosystem ด้วยต้นทุนที่คุ้มค่ามาตรฐานระดับสากล เพื่อให้สามารถตอบสนองรูปแบบการทำงานที่เปลี่ยนไปในยุค New Normal ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำกว่าเดิม อีกทั้งยังช่วยยกระดับการบวนการทำงานองค์กรธุรกิจให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น พร้อมทั้งเสริมความคล่องตัวในการทำงานอย่างครบวงจร
โดยคาดว่าความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยผลักดันให้ธุรกิจในประเทศไทยมีการนำ Intelligent Automation มาใช้งานอย่างแพร่หลายมากขึ้น พร้อมสร้างความมั่นใจให้กับองค์กรในการนำเทคโนโลยี IA และ RPA มายกระดับธุรกิจ รวมถึงลดต้นทุนในการลงทุนและบริหารจัดการ ด้วยการให้บริการ Intelligent Automation รูปแบบใหม่ จาก พีทีที ดิจิตอล ที่มีความพร้อมทั้งทีมงานที่เชี่ยวชาญในการพัฒนาเทคโนโลยี IA และ RPA กับธุรกิจทุกกลุ่ม และเทคโนโลยีชั้นนำด้านซอฟต์แวร์ และระบบการทำงานหลากหลายของ เอสเอสแอนด์ซี บลู ปริซึม ผู้นำระดับโลก ตอบโจทย์การทำงานขององค์กรยุคดิจิทัลในประเทศไทยได้อย่างสมบูรณ์แบบ
รายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ : ส่วนการตลาด บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด อาทิตยา สุขาภิรมย์ โทร : 02-1402147 อีเมล : Atitaya.s@pttdigital.com
+
12/05/2021
สืบเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ที่ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะพื้นที่ในเขตกรุงเทพมหานคร การกระจายวัคซีนให้ครอบคลุมประชาชนทุกกลุ่มในทุกพื้นที่โดยเร็วที่สุดถือเป็นอีกหนึ่งวาระสำคัญแห่งชาติ
ทั้งนี้ เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของภาครัฐให้ประชาชนได้รับวัคซีนได้อย่างรวดเร็ว และทั่วถึงมากที่สุด บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด (PTT Digital) ผู้ให้บริการพัฒนา และบริหารจัดการระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของบริษัทกลุ่ม ปตท. ร่วมกับบริษัทกลุ่ม ปตท. ซึ่งได้แก่ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน), บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ร่วมกันสนับสนุนอุปกรณ์ไอที อาทิเช่น Notebook, PC, Printer, Barcode Reader และอุปกรณ์ต่อพ่วง รวมถึง ส่งทีมเจ้าหน้าที่ IT Onsite เพื่อเข้าให้การสนับสนุนติดตั้ง และเดินสายอุปกรณ์ ณ จุดลงทะเบียน ซักประวัติคัดกรองของหน่วยบริการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัส COVID-19 เคลื่อนที่ ซึ่งเป็นจุดบริการที่เกิดจากการดำเนินการร่วมกันระหว่าง กรุงเทพมหานคร และกระทรวงสาธารณสุข อำนวยความสะดวกในการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการแพทย์ และสาธารณสุข ให้สามารถปฏิบัติหน้าที่รับลงทะเบียน และบันทึกประวัติได้อย่างราบรื่นที่สุด
โดยหน่วยบริการเคลื่อนที่ฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัส COVID-19 จะให้บริการประชาชนที่อยู่ในพื้นที่กลุ่มเสี่ยงในบริเวณชุมชนโบถส์พระมหาไถ่และสนามโปโลฟุตบอลพาร์ค เขตลุมพินี กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันที่ 10 ถึง 13 พฤษภาคม 2654 และมีแผนการให้บริการในบริเวณพื้นที่อื่น ๆ ร่วมกันในลำดับต่อไป
PTT Digital และ บริษัทกลุ่ม ปตท. ขอเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข รวมถึงเป็นกำลังใจให้คนไทย และประเทศไทยฝ่าวิกฤต COVID-19 ไปได้ด้วยดี สร้างพลังร่วมใจสู้ภัย COVID-19 ไปด้วยกัน
หากท่านต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ : ส่วนการตลาด บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด อาทิตยา สุขาภิรมย์ โทร : 0 2140 2147 อีเมล : Atitaya.s@pttdigital.com
+
17/03/2021
เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2564 คณะผู้บริหาร และทีมงาน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) นำโดย คุณชวาล รัตนวราหะ Chief of Transformation Officer บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เข้าศึกษาดูงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ณ ห้องประชุม KL ชั้น 4 อาคาร ENCO B กรุงเทพฯ โดยมี คุณนพดล ปิ่นสุภา รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ นวัตกรรมและดิจิทัล บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ คุณกวีศักดิ์ บุญเฉลียว กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น เป็นตัวแทนต้อนรับ
โดยในงานนี้ คุณบุญเรือง ธนาสุนทรไพศาล Customer Service & Operations Vice President บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด ได้แบ่งปันองค์กรความรู้เรื่อง การจัดซื้อจัดหาอุปกรณ์ IT เชิงกลยุทธ์ (Sourcing Strategy) ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการจัดซื้อจัดจ้างให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อองค์กร โดยมีเนื้อหาครอบคลุม เรื่องการบริหารจัดการ Software License ขององค์กร จนถึง การจัดซื้อจัดจ้าง Notebook และ PC เพื่อให้การดำเนินงานด้านการจัดซื้อจัดจ้างทั้ง Software และ Hardware ขององค์กรเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับการใช้งาน
นอกจากนี้เรื่องที่มีความสำคัญในยุคดิจิทัลอีกเรื่องหนึ่งคือการบริหารจัดการระบบโครงสร้างพื้นฐานขององค์กร ซึ่งในงาน คุณสมหมาย จารุดิลกกุล Infrastructure Management Services Vice President บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด พร้อมด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญขององค์กรแบ่งปันองค์ความรู้ด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cyber Security) ซึ่งเป็นระบบสำคัญที่ทำหน้าที่ตรวจจับ และกำจัดความเสี่ยงให้กับข้อมูลสารสนเทศขององค์กรจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ รวมถึงการเตรียมความพร้อมเก็บ และบริหารจัดการข้อมูลให้สอดรับกับหลักกฎหมายและข้อบังคับที่ใช้กำกับดูแลการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสม เพื่อสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างปลอดภัยบนพื้นฐานของกฎหมาย และความถูกต้อง
นอกจากนี้ คุณสมหมาย และทีมงานยังแบ่งปันองค์ความรู้เรื่องหลักเกณฑ์การพิจารณาเลือกใช้งาน คลาวน์ (Cloud) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีสำคัญที่นำมาใช้ยกระดับการทำงานของระบบต่าง ๆ ในองค์กร ซึ่ง พีทีที ดิจิตอล ในฐานะผู้ให้บริการใระบบ Cloud ที่มีมาตฐานการจัดเก็บข้อมูลระดับ Enterprise standard ให้ข้อมูลเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การคัดเลือก และแสดงตัวอย่างกรณีศึกษา การนำระบบ Hybrid Cloud ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง ระบบไพรเวทคลาวด์สำหรับองค์กร ( Private Cloud) ที่พีทีที ดิจิตอล ให้บริการ และระบบคลาวด์สาธารณะ (Public Could) มาใช้ดำเนินงาน โดยแลกเปลี่ยนประสบการณ์การให้บริการ Hybrid Cloud แก่กลุ่มบริษัท ปตท. เพื่อเป็นแนวทางการประกอบการพิจารณาคัดเลือกรูปแบบการใช้งานที่เหมาะสมกับโมเดลการทำธุรกิจของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) มากที่สุด
อย่างไรก็ตามการปรับเปลี่ยนโครงสร้างและวิธีการทำงานขององค์กรอยู่ เพื่อตอบสนองการทำงานในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การปรับตัวเพื่อการอยู่รอดขององค์กรในยุค Digital Transformation ที่กลุ่มบริษัท ปตท. ตระหนักและให้ความสำคัญเป็นลำดับแรกของการบริหารจัดการองค์กรโดยในงานนี้ ได้รับเกียรติจากคุณสนิดา ศีลสุทธิ์ ผู้จัดการส่วนกลยุทธดิจิทัล บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ร่วมแบ่งปันประสบการณ์การนำแนวคิด Agile Development Process เข้ามาปรับใช้กับการทำงานของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ซึ่งสามารถช่วยปรับปรุงกระบวนการทำงานให้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อันเป็นรากฐานความสำเร็จในการทำ Digital Transformation ให้องค์กรเป็น Digital Organization อย่างสมบูรณ์ ทั้งนี้เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและพร้อมก้าวเข้าสู่การทำงานยุคใหม่อย่างยั่งยืน
หากท่านต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ : ส่วนการตลาด บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด อาทิตยา สุขาภิรมย์ โทร : 0 2140 2147 อีเมล : Atitaya.s@pttdigital.com
+
18/11/2020
สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน
ศึกษาดูงานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์
ณ บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด
นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (ผอ.สนพ.) นำทีมข้าราชการและเจ้าหน้าที่ สนพ. ศึกษาดูงานด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ณ บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด โดยคุณกวีศักดิ์ บุญเฉลียว กรรมการผู้จัดการให้การต้อนรับ
การศึกษาดูงานมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาเรียนรู้ลักษณะงาน แนวทางการดำเนินงาน ตลอดจนเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างหน่วยงาน และเพื่อสอบถามข้อมูลด้านการกำกับดูแลด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ในภาพรวมขององค์กร เช่น โครงสร้างของหน่วยงานและบทบาทหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ การสร้างและการแบ่งปันข้อมูลกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ รวมถึงแนวทางการป้องกันและรับมือภัยคุกคามทางไซเบอร์ โดยเน้นการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับระบบควบคุมการผลิต เช่น ระบบควบคุมอัตโนมัติ (SCADA) ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีความสำคัญต่อองค์กร เป็นต้น เพื่อนำมาใช้ในการกำหนดทิศทางการขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์สำหรับภาคส่วนไฟฟ้าเพื่อประโยชน์ในการบริหารจัดการความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ให้มีคุณภาพต่อไป
+
18/11/2020
ภาพบรรยากาศการจัดกิจกรรมจิตอาสา ครั้งที่ 2 ประจำปี 2563
ณ โรงเรียนในอำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม
บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด ได้จัดกิจกรรมจิตอาสา ครั้งที่ 2 ประจำปี 2563 ขึ้น ณ โรงเรียนคลองนกกระทุง โรงเรียนวัดเวฬุวนาราม โรงเรียนบ้านนราภิรมย์ และโรงเรียนคลองพระมอพิสัย อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม โดยมี คุณกวีศักดิ์ บุญเฉลียว กรรมการผู้จัดการ พร้อมคณะผู้บริหารและพนักงาน ร่วมส่งมอบอุปกรณ์การเรียนการสอน อุปกรณ์กีฬา ชุดโต๊ะ/เก้าอี้นักเรียน และอุปกรณ์สำนักงาน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนให้โรงเรียนมีการเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมทั้งเป็นการสนับสนุนให้นักเรียนได้ฝึกทักษาทางด้านการกีฬา เพื่อส่งเสริมให้ครู และนักเรียนมีสุขภาพที่ดี
+
18/11/2020
ภาพบรรยากาศการจัดกิจกรรมจิตอาสาประจำปี 2563
ณ โรงเรียนบางเขน (ไว้สาลีอนุสรณ์)
บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด ได้จัดกิจกรรมจิตอาสา ประจำปี 2563 ขึ้น ณ โรงเรียนบางเขน (ไว้สาลีอนุสรณ์) โดยมี คุณเทอดเกียรติ พร้อมมูล กรรมการผู้จัดการ พร้อมคณะผู้บริหารบริษัทฯ ร่วมส่งมอบหน้ากากผ้ามัสลินคุณภาพดี จำนวน 2,000 ชิ้น แอลกอฮอล์ชนิดน้ำและเจล จำนวน 40 ลิตร และเครื่องวัดอุณหภูมิร่างกาย จำนวน 4 เครื่อง ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อป้องการการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid - 19 เพื่อสุขภาพที่ดีของครู นักเรียน และบุคลากรของโรงเรียน
+
03/10/2020
พีทีที ดิจิตอล ผนึกความร่วมมือ โยโกกาวา(ประเทศไทย)
ชูบริการ OT Cyber Security เพื่อสร้างความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์
ตอบโจทย์ภาคอุตสาหกรรม
บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด ผนึกความร่วมมือ บริษัท โยโกกาวา (ประเทศไทย) จำกัด เสริมศักยภาพในการให้บริการ OT Cyber Security เพื่อสร้างความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ตอบโจทย์ภาคอุตสาหกรรม ในการรักษาความปลอดภัยข้อมูลให้กับธุรกิจของลูกค้าที่ปัจจุบันต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว พร้อมจัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ในการให้บริการมอนิเตอร์ความปลอดภัยทาง cyber ของอุปกรณ์เครื่องจักรที่ใช้ในการทำงาน หรือ Operational Technology Cyber Security กับ บริษัท โยโกกาวา (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทชั้นนำด้านงานระบบควบคุมอัตโนมัติ (Process Automation) และเครื่องมือวัด (Instrumentation) เพื่อยกระดับการให้บริการระบบงาน Plant Security Lifecycle Service ร่วมกับ Operational Security หรือ OT Security ในการเสริมศักยภาพกระบวนการทำงานและความปลอดภัยทางไซเบอร์ พร้อมทั้งเสริมศักยภาพในการให้บริการลูกค้าภาคอุตสาหกรรมได้ครบวงจรและสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
โดยปัจจุบันองค์กรธุรกิจในยุค 4.0 ภัยคุกคามในด้านความปลอดภัยของข้อมูลเป็นหนึ่งในความเสี่ยงมากที่สุดที่ทุกองค์กรต้องให้ความสำคัญและตระหนักอย่างมาก ส่งผลให้หลายๆ องค์กรมองหาและมีความต้องการผู้ให้บริการที่มีทักษะความสามารถและความเชี่ยวชาญด้านการรักษาความปลอดภัยทาง ไซเบอร์ในการปกป้องความปลอดภัยข้อมูลองค์กร ซึ่งบริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด (PTT Digital) ผู้ให้บริการพัฒนาและบริหารจัดการระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของ กลุ่ม ปตท. มีความมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือลูกค้าในการลดปัญหาดังกล่าวอย่างมืออาชีพตามมาตรฐานสากล ในการรักษาความปลอดภัยข้อมูลให้กับธุรกิจของลูกค้าที่ปัจจุบันต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
สำหรับการร่วมลงนามครั้งนี้ นับเป็นการผนึกศักยภาพความแข็งแกร่งของ 2 องค์กรครั้งสำคัญ เพื่อนำเสนอบริการและสร้างความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ตอบโจทย์ลูกค้าภาคอุตสาหกรรมอย่างครบวงจร โดย บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านระบบ Operational security ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยตรวจจับและกำจัดความเสี่ยงให้กับข้อมูลสารสนเทศขององค์กรจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ในรูปแบบต่าง ๆ โดยลูกค้าสามารถมั่นใจได้ว่าข้อมูลสำคัญขององค์กรมีความปลอดภัย เนื่องจาก พีทีที ดิจิตอล มีศูนย์เฝ้าระวังความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ที่มีมาตรฐานระดับสากล ทำให้องค์กรมั่นใจได้ว่าจะสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อการให้บริการทุกกลุ่มธุรกิจ นอกจากนี้ทางด้าน บริษัท โยโกกาวา (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการออกแบบระบบ Plant Security Lifecycle Service เป็นบริการรักษาความปลอดภัยในภาคอุตสาหกรรมอย่างครบวงจร เริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการวิเคราะห์ความเสี่ยง ออกแบบและติดตั้งระบบความปลอดภัยที่เหมาะกับการป้องกันความเสี่ยง สนับสนุนระบบปฏิบัติการหลังจากติดตั้งไปจนถึงกระบวนการตรวจสอบและควบคุมการทำงานให้ได้มาตรฐานและมีประสิทธิภาพ
รายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ : ส่วนการตลาด บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด อาทิตยา สุขาภิรมย์ โทร : 02-1402147 อีเมล : Atitaya.s@pttdigital.com
+
03/08/2020
ภาพบรรยากาศการจัดกิจกรรมจิตอาสาประจำปี 2562
ณ โรงเรียนบางเขน (ไว้สาลีอนุสรณ์)
บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด ได้จัดกิจกรรมจิตอาสา ประจำปี 2562 ขึ้น ณ โรงเรียนบางเขน (ไว้สาลีอนุสรณ์) โดยมี คุณเทอดเกียรติ พร้อมมูล กรรมการผู้จัดการ พร้อมคณะผู้บริหารบริษัทฯ นำทีมจิตอาสาร่วมส่งมอบการปรับปรุงห้องคอมพิวเตอร์ เมื่อวันศุกร์ที่ 15 พฤศจิกายน 2562 ที่ผ่านมา รวมทั้งมอบเครื่องคอมพิวเตอร์จำนวน 3 เครื่อง, เครื่องพิมพ์พร้อมหมึก จำนวน 1 ชุด, โต๊ะวางคอมพิวเตอร์ จำนวน 3 ตัว, เก้าอี้ จำนวน 43 ตัว และมอบเงินสนับสนุนการศึกษา จำนวน 20,000 บาท ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อให้การเรียน การสอนมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ส่งตัวแทนจากหน่วย Customer Service & Operations (CSO) และตัวแทนจากสำนักกรรมการผู้จัดการเข้าสำรวจห้องคอมพิวเตอร์ และดำเนินการอัพเกรดเครื่องคอมพิวเตอร์ จำนวน 41 เครื่อง รวมทั้งปรับปรุงระบบ LAN ระหว่างวันที่ 9-18 ตุลาคม 2562 บริษัทฯ ต้องขอขอบคุณจิตอาสาทุกท่านที่ได้ร่วมกันทำประโยชน์เพื่อสังคมโดยรวม
+
20/09/2018
กลุ่ม ปตท. ร่วมออกบูธงาน ‘Digital Thailand Bigbang 2018’
นำเสนอเทคโนโลยี และนวัตกรรมดิจิทัลของกลุ่ม ปตท. ในมหกรรมระดับชาติ
เมื่อวันพุธที่ 19 กันยายน 2561 ที่ผ่านมา กลุ่ม ปตท. โดยบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (PTT) บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (PTTOR) บริษัท บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตเลียม จำกัด (มหาชน) (PTTEP) บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) (TOP) และบริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด (PTT Digital) ได้ร่วมออกบูธงาน Digital Thailand Bigbang 2018 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1- 3 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็คเมืองทองธานี โดยได้รับเกียรติจากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจ และสังคมเข้าเยี่ยมชมบูธ โดยมี คุณอรวดี โพธิสาโร กรรมการผู้จัดการ PTT Digital ร่วมให้การต้อนรับ พร้อมกันนี้ยังได้รับเกียรติจากคณะผู้บริหาร PTT เข้าร่วมงาน ประกอบด้วยคุณวรวัฒน์ พิทยศิริ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่นวัตกรรมและดิจิตอล (รวว.) คุณยุทธนา วิญญูพงศ์พันธ์ ผู้ช่วยกรรมการ ผู้จัดการใหญ่ ระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติ (ผทต.) คุณสมนึก แพงวาปี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ แยกก๊าซธรรมชาติ (ผยก.) คุณวิไลวรรณ กาญจนกันติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ นโยบายการเงินและบัญชีองค์กร (ผยญ.) และคุณสุณี อารีกุล ผู้จัดการฝ่าย กลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นต้นและก๊าซธรรมชาติ และได้รับเกียรติจากผู้บริหาร PTTOR เข้าร่วมงาน ประกอบด้วย คุณบูรณิน รัตนสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ธุรกิจหล่อลื่น (รลธ.) และคุณชุมพล สุรพิทยานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่วางแผน (รผญ.) และได้รับเกียรติจากผู้บริหารจาก TOP เข้าร่วมงาน คุณสันติ วาสนศิริ ผู้จัดการฝ่ายนวัตกรรมและการบริหารความยั่งยืน
สำหรับงาน Digital Thailand Bigbang 2018 เป็นนิทรรศการเทคโนโลยีดิจิทัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมกับคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จัดงานครั้งนี้ ภายใต้แนวคิด “Thailand BIG DATA: โลกเปิด เราปรับ ประเทศเปลี่ยน” มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อนำเสนอเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลล้ำสมัย จากพันธมิตร 12 ประเทศ กว่า 500 หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และสตาร์ทอัพ เพื่อให้ประชาชนชาวไทยและต่างชาติที่คาดว่าจะเข้าร่วมงานครั้งนี้ถึง 250,000 คน ได้เข้าใจถึงประโยชน์ และโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ รวมถึงคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นจากการนำ Big Data ไปใช้ขับเคลื่อนพัฒนาทุกภาคส่วน โดยงานครั้งนี้ กลุ่มปตท. โดย PTT Digitalรับหน้าที่เป็นเจ้าภาพในการออกบูธนำเสนอเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลของ ปตท. และบริษัทในเครือตลอดทั้ง Value Chain และ New Business ดังนี้
กลุ่ม Upstream ประกอบด้วย
1. Autonomous Underwater Vehicle (AUV) โดย PTTEP หุ่นยนต์ใต้น้ำอัตโนมัติที่สามารถทำงานด้วยตัวเองตามโปรแกรมที่ตั้งไว้ล่วงหน้า
2. Multipurpose Plant Inspection Octocopter (MPIO) โดย PTTEP โดรนชนิด 8 ใบพัด ติดตั้งกล้องความละเอียดสูง ซูมได้ 30 เท่า และกล้องถ่ายภาพความร้อน นำมาใช้ตรวจสอบหอเผาทิ้ง หรือ Flare อย่างปลอดภัย ช่วยให้วางแผนซ่อมบำรุงอุปกรณ์ได้อย่างแม่นยำขึ้น โดยโดรนรุ่นนี้ได้เข้าร่วมภาระกิจช่วยเหลือ น้องๆ ทีมฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมีที่ติดอยู่ในถ้ำหลวงด้วย
กลุ่ม Midstream ประกอบด้วย
1. IN - PIPE Inspection Robot โดย TOP หุ่นยนต์ตรวจสอบท่อตัวแรกของโลกที่ครอบคลุมขนาดของท่อได้มากกว่าครึ่งของโรงกลั่น
2. Predictive Asset Maintenance (The Soothsayer) โดย PTT เครื่องมือพยากรณ์ความเสียหายและพฤติกรรมผิดปกติที่เกิดขึ้นกับเครื่องจักรและอุปกรณ์ล่วงหน้า โดยใช้เทคนิคการทำนายจากข้อมูลเชิงสถิติ (Big data)
3. Integrated Pipeline Maintenance and Monitoring System (IPMMS) โดย PTT การนำ IoT มาใช้เพื่อตรวจสอบและบำรุงรักษาระบบป้องการผุกร่อน Cathodic Protection ของท่อส่งก๊าซธรรมชาติ ช่วยลดขั้นตอนการทำงาน มีความแม่นยำมากขึ้นและรู้ความเสี่ยงล่วงหน้า ถือเป็นการนำ NB-IoT มาใช้จริงเป็นรายแรกของ South East Asia
4. Commodity Trading and Risk Management (CTRM) โดย PTT ระบบสนับสนุนการบริหารและควบคุมความเสี่ยงทางการค้าของหน่วยธุรกิจการค้าระหว่างประเทศในหลายมิติ ตั้งแต่ความเสี่ยงคู่ค้า ความเสี่ยงทางด้านราคา และการรับจ่ายเงิน
กลุ่ม Downstream ประกอบด้วย
1. Digital Marketing โดย PTTOR นำข้อมูลการใช้บัตร PTT Blue Card มาวิเคราะห์ด้วย Big Data เพื่อนำเสนอโปรโมชั่นและสิทธิประโยชน์สุดพิเศษให้กับสมาชิก PTT Blue Card
กลุ่ม New Business ประกอบด้วย
1. Advanced Human-Machine Interface (Predictive Human Health for Better Life) โดย VISTEC การทดลองวิจัยหุ่นยนต์สนับสนุนการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย ขาหุ่นยนต์ช่วยพยุงเดิน และเทคโนโลยีที่เชื่อมระบบประสาทสั่งการกับการทำงานของอุปกรณ์ ช่วยให้ผู้ป่วยอัมพาตสามารถสั่งการเคลื่อนไหวของอุปกรณ์ได้ เพียงสวมอุปกรณ์นี้
2. EV Wall Charger โดย PTT อุปกรณ์รองรับการส่งข้อมูลการประจุไฟฟ้า เช่น ข้อมูลผู้ใช้บริการ ข้อมูลสถานะของอุปกรณ์ EV charger โดยสามารถตรวจสอบข้อมูลได้ผ่านแอพพลิเคชั่นบน smart phone และนำข้อมูลมาวิเคราะห์พฤติกรรมการประจุไฟฟ้าได้
3. Inclusive IoT business โดย PTT โครงสร้างพื้นฐาน Internet of Things (IoT) ที่ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างมูลค่าเพิ่ม และผลักดันการดำเนินธุรกิจ S-Curve โดยใช้นวัตกรรมดิจิทัล พัฒนาไปสู่ Smart City
4. Drone stock counting โดย PTT Digital โดรนสำรวจสินค้าคงคลังอัตโนมัติโดยไม่ต้องมีผู้บังคับ ทำให้การตรวจนับสินค้าคงคลังแม่นยำขึ้น และลดความเสี่ยงและอุบัติเหตุจากการตรวจนับโดยมนุษย์
นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรมนำบัตร PTT Blue Card มา Scan QR code ตามจุดต่างๆ ภายในบูธเพื่อแลกรับของรางวัล และยังมีการเล่นเกมตอบคำถามแลกรับของรางวัลด้วย โดยพนักงาน PTT Digital และพนักงานกลุ่ม ปตท. สามารถเข้าเยี่ยมชมเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลอันน่าภาคภูมิใจของกลุ่ม ปตท. พร้อมร่วมกิจกรรมสนุกๆ ได้ที่บูธ D05 อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี ตั้งแต่วันนี้ - วันอาทิตย์ที่ 23 ก.ย. 61 เวลา 10.00 – 19.00 น.
+
16/07/2018
เมื่อวันศุกร์ที่ 13 กรกฎาคม 2561 ที่ผ่านมา นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่เทคโนโลยีและวิศวกรรม บริษัท ปตท. จํากัด (มหาชน) และประธานกรรมการ บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “D-NEXT: Demo Day 2018” ภายใต้โครงการ “D-NEXT by PTT Digital x RISE” ดำเนินการโดยบริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด (PTT Digital) ร่วมกับ RISE สถาบันเร่งสปีด นวัตกรรมองค์กร และสตาร์ทอัพระดับภูมิภาค โชว์ผลงาน Prototype ของ 15 ทีม สตาร์ทอัพระดับโลก ที่ได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วม Bootcamp พัฒนาศักยภาพ ขยายการเติบโตธุรกิจตลอดระยะเวลา 3 เดือน ต่อผู้บริหารกลุ่ม ปตท. นักลงทุน และนักธุรกิจชั้นนำในวงการสตาร์ทอัพกว่า 300 ท่าน พร้อมเปิดโอกาสให้สตาร์ทอัพที่มีศักยภาพ ร่วมงานกับกลุ่ม ปตท. เพื่อนำเทคโนโลยีมาต่อยอด ให้ตอบโจทย์การพัฒนาธุรกิจ New-S Curve พร้อมเติบโตแบบก้าวกระโดด ขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิตอลของประเทศ และภูมิภาคอาเซียน โดยผู้ชนะได้แก่ทีม BBP สตาร์ทอัพด้าน Energy Tech จากประเทศสิงคโปร์
นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่เทคโนโลยีและวิศวกรรม บริษัท ปตท. จํากัด (มหาชน) และประธานกรรมการ บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด กล่าวว่า “กลุ่ม ปตท. มุ่งที่จะนำเทคโนโลยีดิจิตอลมาดำเนินธุรกิจให้เติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทันต่อการเปลี่ยนแปลงขององค์กรขนาดใหญ่ ในยุคดิจิตอลที่แข่งขันกันด้วยความเร็วในการพัฒนางานนวัตกรรมและเทคโนโลยี โดยกลุ่มปตท. ได้เปิดตัวโครงการร่วมกับ RISE ภายใต้ชื่อโครงการ “D-NEXT by PTT Digital x RISE” มาเป็นระยะเวลา 6 เดือน เพื่อเฟ้นหาสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพจากกว่า 300 ทีม จาก 22 ประเทศทั่วโลก มาคัดเลือกให้เหลือ 15 ทีม ที่เหมาะสมกับธุรกิจทั้ง 6 ด้านของกลุ่ม ปตท. ได้แก่ Energy & Utility Management, Operation & Maintenance, Health & Environment, Sales & Marketing, Finance และธุรกิจอื่นๆ เช่น Human Resources เป็นต้น โดยสตาร์ทอัพทั้ง 15 ทีมนี้ จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์ที่นำเทคโนโลยีดิจิตอลมาใช้แก้ปัญหาให้กับธุรกิจในกลุ่ม ปตท. ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีโอกาสขยายธุรกิจร่วมกันกับ PTT Digital ให้เติบโตแข็งแกร่งเทียบเท่าสากล โดยงาน D-NEXT: Demo Day 2018 ในวันนี้ เป็นครั้งแรกของการโชว์ผลงานของสตาร์ทอัพซึ่งได้รับการพัฒนาให้ตอบโจทย์ธุรกิจกลุ่ม ปตท. ในระดับต้นแบบ (Prototype) แสดงถึงศักยภาพและความพร้อมในการพัฒนาไปสู่ธุรกิจร่วมกับกลุ่มปตท. ตอบโจทย์การสร้าง New S-Curve ของธุรกิจ”
นางอรวดี โพธิสาโร กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด เปิดเผยว่า “ตลอด 12 สัปดาห์ใน Bootcamp สตาร์ทอัพทั้ง 15 ทีม ได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญทางธุรกิจและเทคโนโลยีของกลุ่ม ปตท.และพันธมิตรจาก RISE รวมทั้งมีการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบสนองความต้องการต่อธุรกิจในกลุ่ม ปตท. ให้หน่วยธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ได้ทดสอบการใช้งานเพื่อพัฒนาต่อยอดเพิ่มเติม โดยสตาร์ทอัพทั้ง 15 ทีม ที่ร่วมโชว์ผลงานในงาน D-Next: Demo Day 2018 จะได้มีโอกาสร่วมเป็นส่วนหนึ่งในโครงการ Digital Transformation ของกลุ่ม ปตท. และมีโอกาสร่วมงาน ตลอดจนขยายการลงทุนในธุรกิจใหม่ของ PTT Digital และกลุ่ม ปตท. ต่อไปในอนาคต ซึ่งนับเป็นอีกก้าวสำคัญของกลุ่ม ปตท. ที่จะได้เรียนรู้วัฒนธรรมและแนวคิดการทำงานแบบสตาร์ทอัพ ที่มีผู้ประกอบการที่รอบรู้ กล้าคิด กล้าทำสิ่งใหม่ และพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิตอล ด้านการพัฒนาศักยภาพธุรกิจสตาร์ทอัพ ไปพร้อมๆ กับยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันขององค์กรขนาดใหญ่”
ด้านคุณหญิง จิตติพัฒนกุลชัย ผู้ร่วมก่อตั้ง RISE สถาบันเร่งสปีดนวัตกรรมองค์กรและสตาร์ทอัพ กล่าวว่า “RISE เล็งเห็นว่า การผลักดันประเทศไทยให้ก้าวสู่ยุคดิจิตอลอย่างผู้ที่ได้เปรียบในระดับสากลนั้น องค์กรขนาดใหญ่ มีส่วนสำคัญต่อการสร้าง New-S Curve ให้กับประเทศเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งสามารถเริ่มต้นได้ด้วยการส่งเสริมและสนับสนุนสตาร์ทอัพที่มีแนวคิดและธุรกิจบริการใหม่ๆ ที่แตกต่างไปจากในองค์กร แต่มีความรวดเร็วในการดำเนินงาน และสามารถทำงานในรูปแบบพาร์ทเนอร์ที่เติมเต็มความเชี่ยวชาญทางธุรกิจขององค์กรขนาดใหญ่ร่วมกันขยายตลาดให้เติบโตอย่างรวดเร็วได้ โดยปัจจุบัน เศรษฐกิจดิจิตอล มีแนวโน้มเติบโตถึง 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งอาเซียนถือว่า เป็นภูมิภาคที่ได้เปรียบตรงที่เป็นตลาดที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโลก ด้วยจำนวนประชากรรวมกว่า 620 ล้านคน รองจากจีนและอินเดีย โดยงาน D-Next: Demo Day 2018 ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ที่สตาร์ทอัพในภูมิภาคอาเซียนและประเทศอื่นๆทั่วโลก รวมถึงนักลงทุน และผู้บริหารกลุ่ม ปตท. จะได้สร้างเครือข่ายเพื่อร่วมมือกันต่อยอดการดำเนินธุรกิจด้วยเทคโนโลยีดิจิตอล”
สำหรับสตาร์ทอัพที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ (D-NEXT Award) จากผลการตัดสินของคณะกรรมการ ได้แก่ ทีม BBP (Barghest Building Performance) สตาร์ทอัพด้าน Energy Tech จากประเทศสิงคโปร์ นำเสนอระบบควบคุมอุณหภูมิภายในอาคารด้วยอัลกอริทึ่มอัจฉริยะแบบ Real-time ทำให้เพิ่มหรือลดอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศภายในอาคารได้อย่างเหมาะสมแบบอัตโนมัติ ช่วยธุรกิจลดการใช้พลังงานลงได้สูงสุดถึง 40 % ลดค่าใช้จ่าย และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดย BBP จะคิดค่าบริการตามสัดส่วนพลังงานที่ช่วยให้ธุรกิจประหยัดลงได้ ด้านสตาร์ทอัพที่ได้รับรางวัล Fan Favorite Award ซึ่งได้รับคะแนนโหวตจากผู้เข้าร่วมงานมากที่สุด ได้แก่ ทีม UpUp App สตาร์ทอัพด้าน HR Tech จากประเทศเวียดนาม นำเสนอแอพพลิเคชั่นในรูปแบบเกมที่ช่วยสร้างความผูกพันของพนักงาน ด้วยการสะสมคะแนนแลกรับของรางวัล ตามเป้าหมายและผลลัพธ์ของการดำเนินงานที่ตั้งไว้ ช่วยเพิ่มแรงจูงใจในการทำงาน วัดผลการดำเนินงานได้เร็วขึ้น และเพิ่มความผูกพันที่พนักงานมีต่อองค์กร
+
29/06/2018
ความร่วมมือด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม ระหว่าง
บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด และ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด
นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่เทคโนโลยีและวิศวกรรม บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ ประธานกรรมการ บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม ระหว่าง บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด กับ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด โดยมี นางอรวดี โพธิสาโร กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด และ นายเมิ่ง เฉียง ผู้บริหารกลุ่มธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรส์ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมลงนาม โดยเป็นความร่วมมือในการวิจัยและพัฒนาด้านปัญญาประดิษฐ์ ดิจิตอลโซลูชันส์ ดิจิตอลแพลตฟอร์มและศูนย์ข้อมูล เพื่อเสริมศักยภาพให้กับบริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด ในการขับเคลื่อนงานเทคโนโลยีดิจิตอลให้กับบริษัทในกลุ่ม ปตท. ต่อไป
+
21/05/2018
ความร่วมมือด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม ระหว่าง
บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด และ บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด
นายวิทวัส สวัสดิ์-ชูโต รองกรรมการผู้จัดการใหญ่นวัตกรรมและดิจิตอล บริษัท ปตท. จํากัด (มหาชน) และกรรมการ บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด และนางพรรณสิรี อมาตยกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด ร่วมเป็นประธานในการลงนามความร่วมมือด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม ระหว่างบริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด และบริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด โดยมี นางอรวดี โพธิสาโร กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด และนายเจมส์ โคสิส พาร์ทเนอร์และรองกรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจไอบีเอ็ม โกลบอล บิสสิเนส เซอร์วิส บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด เป็นผู้ลงนามฯ เพื่อร่วมกันวิจัย และพัฒนาในด้านที่เกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ Digital solutions (อาทิ Internet of Things, Blockchain เป็นต้น) ความร่วมมือด้านดิจิตอล Smart City Platform, Networking, Cyber security และ Data Center)
ทั้งนี้ นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่เทคโนโลยีและวิศวกรรม บริษัท ปตท. จํากัด (มหาชน) และประธานกรรมการ บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด ได้ให้เกียรติกล่าวต้อนรับ และแสดงความยินดีในการลงนามความร่วมมือด้านเทคโนโลยี และนวัตกรรม ในครั้งนี้
+
21/05/2018
PTT Digital มอบทุน และความร่วมมือทางการศึกษา
ให้กับสถาบันวิทยสิริเมธี(VISTEC)
เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2560 บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด นำโดย คุณอรวดี โพธิสาโร กรรมการผู้จัดการ พร้อมคณะผู้บริหาร และพนักงาน มอบทุน และความร่วมมือทางการศึกษา ซึ่งมีมูลค่ารวม 5,135,000 บาท ให้กับสถาบันวิทยสิริเมธี (VISTEC) โดยมีดร. ไพรินทร์ ชูโชติถาวร นายกสภาสถาบันฯ และ ศ. ดร. จำรัส ลิ้มตระกูล อธิการบดีสถาบันวิทยสิริเมธี เป็นประธานในพิธีมอบทุน และกล่าวขอบคุณผู้มอบทุน ณ ห้อง Business Center ชั้น 1 อาคาร EnCo A
+
21/05/2018
PTT Digital มอบทุน และความร่วมมือทางการศึกษา
ให้กับโรงเรียนกำเนิดวิทย์ (KVIS)
เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2560 บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด นำโดย คุณอรวดี โพธิสาโร กรรมการผู้จัดการ พร้อมคณะผู้บริหาร และพนักงาน มอบทุน และความร่วมมือทางการศึกษา ซึ่งมีมูลค่ารวม 5,135,000 บาท ให้กับโรงเรียนกำเนิดวิทย์ (KVIS) โดยมี ดร.ธงชัย ชิวปรีชา ผู้อำนวยการโรงเรียนกำเนิดวิทย์ เป็นประธานในพิธีมอบทุน และกล่าวขอบคุณผู้มอบทุน ณ โรงเรียนกำเนิดวิทย์ จังหวัดระยอง
เนื่องจากโรงเรียนกำเนิดวิทย์มีวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งที่ชัดเจน ที่จะมุ่งสู่การพัฒนาศักยภาพเด็กนักเรียนให้เป็นเลิศด้านคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งเป็นทิศทาง นโยบายของกลุ่ม ปตท. ที่จะพัฒนาพื้นที่ภาคตะวันออกและบุคลากรชาติให้มีศักยภาพนั้น ในวันนี้บริษัท พีทีที ดิจิตอล จึงขอร่วมเป็นหนึ่งในการเสริมสร้างโอกาสของโรงเรียนกำเนิดวิทย์เพิ่มเติม ในการพัฒนากำลังคนด้านคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศ
+
21/05/2018
PTT Group ปฏิรูปองค์กรครั้งใหญ่ด้วย Digital Transformation
โดยให้ PTT Digital เป็นกลไกขับเคลื่อนองค์กรด้วยเทคโนโลยีสู่อนาคต
กลุ่ม ปตท. เดินหน้าเคลื่อนทัพองค์กรด้วยนโยบาย Digital Transformation ดึงคณะทำงานจากทุกบริษัทในกลุ่ม ปตท. ร่วมทีม PTT Group Digital Transformation เพื่อร่วมกันวิเคราะห์วางกลยุทธ์เดินหน้าองค์กร ด้วยเทคโนโลยีที่ตอบสนองความต้องการลูกค้าในยุคดิจิตอลให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ตั้งแต่งานวิเคราะห์ข้อมูล งานในโรงงานผลิต ไปจนถึงงานบริการถึงมือลูกค้า โดยมี PTT Digital ดำเนินงานด้านเทคโนโลยีของกลุ่ม ปตท. แบบรวมศูนย์ เพื่อให้เกิดการใช้เทคโนโลยีร่วมกันมากที่สุด เพิ่มช่องทางแบ่งปันความรู้ พร้อมลดต้นทุนจากการใช้งานเทคโนโลยีร่วมกัน
นางอรวดี โพธิสาโร กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด (PTT Digital) เปิดเผยว่า บริษัทกลุ่ม ปตท. ให้ความสำคัญกับการพัฒนาธุรกิจ การนำเสนอสินค้า บริการ และประสบการณ์ที่ดีต่อลูกค้า โดยเฉพาะในยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงทางดิจิตอล และผู้บริโภคสามารถเข้าถึงข้อมูล และบริการต่างๆได้ด้วยเทคโนโลยี ด้วยเหตุดังกล่าว คณะผู้บริหารบริษัทกลุ่ม ปตท. จึงได้จัดตั้งคณะทำงาน PTT Group Digital Committee ประกอบด้วยตัวแทนผู้บริหารบริษัทในกลุ่ม ปตท. ได้แก่ PTT PTTGC PTTEP TOP IRPC และ GPSC เข้ามาร่วมกันวิเคราะห์ และวางแผนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจโดยนำเทคโนโลยีดิจิตอลมาเสริมศักยภาพ และประสิทธิภาพ โดยมอบหมายให้ PTT Digital เป็นศูนย์กลางในการขับเคลื่อนองค์กรด้านเทคโนโลยีดิจิตอล และกำหนดแผนแม่บทในการพัฒนา และแบ่งปันองค์ความรู้ร่วมกัน เพื่อก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างองค์กรไปสู่รูปแบบดิจิตอล (Digital Transformation) ซึ่งจะทำให้บุคลากรภายในองค์กร สามารถนำเทคโนโลยีมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และตอบสนองผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็วในยุคดิจิตอล เช่น การนำเทคโนโลยีดิจิตอล มาวิเคราะห์การใช้งานอุปกรณ์ในโรงงาน เพื่อประกอบการวางแผนการซ่อมบำรุง หรือการนำเทคโนโลยีมาวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้าเพื่อประกอบการวางแผนการตลาดให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
สำหรับการนำเทคโนโลยีดิจิตอลมาใช้เสริมศักยภาพการดำเนินธุรกิจของกลุ่ม ปตท. ที่โดดเด่นประกอบด้วย เทคโนโลยี Big Data Analytics สามารถนำมาใช้วิเคราะห์ข้อมูลการใช้งานและพฤติกรรมของลูกค้า เพื่อเพิ่มศักยภาพการนำเสนอบริการที่ตรงความต้องการของลูกค้า และการวางแผนการตลาดในระยะยาว เทคโนโลยี Blockchain สามารถมาใช้ในการทำ E-Bank Guarantee ทำให้การออกหนังสือค้ำประกันมีความสะดวก รวดเร็ว โปร่งใสยิ่งขึ้น ลดข้อผิดพลาดทางธุรกรรมลงได้มาก ลดระยะเวลา และอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าได้มากขึ้นอีกด้วย เทคโนโลยี IoT ช่วยสนับสนุนการดำเนินงานในโรงงานผลิต โรงกลั่นน้ำมัน โรงแยกก๊าซธรรมชาติ เพื่อเก็บข้อมูลการใช้งานจากอุปกรณ์ต่างๆ และนำประกอบวางแผนซ่อมบำรุงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นเป็นต้น รวมถึงเทคโนโลยี AI/Chatbot ปัญญาประดิษฐ์ที่โต้ตอบผ่านการส่งข้อความแชทกับมนุษย์ ก็สามารถนำมาใช้เป็นเสมือนผู้ช่วยส่วนตัวของพนักงาน (Virtual Assistant) เช่น ตอบคำถามเกี่ยวกับสวัสดิการพนักงาน หรือ เป็นผู้ช่วยส่วนตัวของลูกค้า เช่น ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการ โปรโมชั่น หรือ ให้คำแนะนำลูกค้าเมื่อเกิดปัญหา เป็นต้น
สำหรับกลยุทธ์ในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ บริษัท PTT Digital จะดำเนินการเป็น Digital Enabler ทำหน้าที่เป็นศูนย์รวมงานระบบไอที และระบบดิจิตอล ของกลุ่ม ปตท. ซึ่งการรวมศูนย์ครั้งนี้ จะทำให้เกิดประโยชน์ ในหลายๆด้าน อาทิ เกิดการใช้เทคโนโลยีร่วมกันเพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ภายใต้หลักเกณฑ์ PTT Group Shared Service เพื่อประโยชน์ด้านการแบ่งปันองค์ความรู้ และการบริหารต้นทุนให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยมุ่งดำเนินงานสอดคล้องกับกลยุทธ์หลักของกลุ่ม ปตท. คือ PTT 3D ที่กลุ่มผู้บริหาร ปตท. กำหนดไว้ ได้แก่ 1.Do Now มุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน เพื่อสร้างรายได้และลดต้นทุน ด้วยการเพิ่มขีดความสามารถทางเทคโนโลยี นำระบบดิจิตอลมาประยุกต์ใช้ในองค์กรทุกภาคส่วนให้สอดคล้องกับเป้าหมาย 2.Decide Now ขยายการเติบโตในประเด็นที่ต้องเร่งตัดสินใจ เพื่อนำไปสู่การลงทุนของธุรกิจในอนาคตของกลุ่ม ปตท. 3. Design Now เร่งสร้างธุรกิจใหม่ให้มีการเติบโตแบบก้าวกระโดดในอนาคต โดยการแสวงหาโอกาสทางธุรกิจ และพัฒนาธุรกิจในรูปแบบใหม่ๆ ด้วยเทคโนโลยี และนวัตกรรม
ซึ่งกลยุทธ์ 3D นี้จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงองค์กรไปสู่ยุคดิจิตอลที่เห็นได้ชัดที่สุด โดยเฉพาะด้านประสิทธิภาพ และกระบวนการทำงานที่ดีขึ้น อันจะส่งผลให้ลูกค้าได้รับสินค้าที่มีคุณภาพ ด้วยบริการที่สะดวก รวดเร็ว ตรงตามความต้องการมากยิ่งขึ้น” นางอรวดี กล่าว
อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ด้าน Digital Transformation ของกลุ่ม ปตท. ไม่ได้เน้นการพัฒนาด้านเทคโนโลยีเพื่อปรับปรุงกระบวนการทำงานเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับการปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานของบุคคลากรในองค์กรให้ก้าวทันยุคดิจิตอลเช่นกัน ซึ่งก็ถือเป็นความท้าทายสำคัญที่องค์กรต้องพัฒนาควบคู่กันไป เพราะบุคคลากรถือเป็นปัจจัยสำคัญ ที่จะสนับสนุน และผลักดันให้การทำ Digital Transformation ของบริษัทในกลุ่ม ปตท. ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน
+
17/05/2018
ความร่วมมือด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม ระหว่าง
บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด และ บริษัท ซิสโก้ ซีสเต็มส์ (ประเทศไทย) จำกัด
นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่เทคโนโลยีและวิศวกรรม บริษัท ปตท. จํากัด (มหาชน) และ นายนาวีน เมนอน ประธานบริษัท ซิสโก้ ซีสเต็มส์ จำกัด ภาคพื้นเอเชียน ร่วมเป็นประธานในการลงนาม “ความร่วมมือด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม” ระหว่าง บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด และ บริษัท ซิสโก้ ซีสเต็มส์ (ประเทศไทย) จำกัด โดยมี นางอรวดี โพธิสาโร กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด และ นายวัตสัน ถิรภัทรพงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิสโก้ ซีสเต็มส์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้ลงนามฯ เพื่อร่วมกันพัฒนาเทคโนโลยีด้านดิจิทัลสนับสนุนการขับเคลื่อนธุรกิจ กลุ่ม ปตท. สนองนโยบายการขับเคลื่อนสู่ “ประเทศไทย 4.0” ของรัฐบาลต่อไป
+
23/01/2018
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 18 มกราคม 2561 ที่ผ่านมา นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่เทคโนโลยี และวิศวกรรม บริษัท ปตท. จํากัด (มหาชน) และประธานกรรมการ บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด เป็นประธาน
ในพิธีเปิดโครงการ “D-NEXT by PTT Digital x RISE” โดยความร่วมมือของ บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด (PTT Digital) ร่วมกับ ไรส์ (RISE) สถาบันเร่งสปีดนวัตกรรมองค์กร และสตาร์ทอัพ เปิดรับสตาร์ทอัพชั้นนําจากทั่วภูมิภาคอาเซียนเข้าสู่บูทแคมป์ (Boot Camp) เพื่อพัฒนาศักยภาพ การสร้างโปรแกรมสนับสนุนธุรกิจ ยกระดับสตาร์ทอัพสู่การเป็นธุรกิจดิจิทัลชั้นนําของภูมิภาคอาเซียนในอนาคตพร้อมเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้ทำงานร่วมกับบริษัทในกลุ่ม ปตท.
นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่เทคโนโลยี และวิศวกรรม บริษัท ปตท. จํากัด (มหาชน) และประธานกรรมการบริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด กล่าวว่า “กลุ่ม ปตท. มุ่งที่จะนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาใช้ในการดำเนินธุรกิจเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลง และการเติบโตของบริษัทในโลกยุคใหม่ ซึ่งที่ผ่านมา กลุ่ม ปตท. ได้นําเทคโนโลยีใหม่ ๆ อาทิ Big Data, Blockchain ฯลฯ มาใช้จนเกิดผลสำเร็จ เป้าหมายของเราคือการนํา กลุ่ม ปตท. ก้าวไปข้างหน้าในโลกที่ธุรกิจต่างแข่งขันกันด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี โดยมี บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด ในฐานะ Flagship การดำเนินงานด้านดิจิทัลของ กลุ่ม ปตท. เป็นศูนย์กลางขับเคลื่อนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างองค์กรและกระบวนการดำเนินธุรกิจไปสู่รูปแบบดิจิทัล “Digital Transformation” ภายใต้ทิศทางการดำเนินธุรกิจของ กลุ่ม ปตท. ที่มุ่งพัฒนาให้ภูมิภาคอาเซียนเติบโตไปด้วยกันอย่างมั่นคง และยั่งยืน
สำหรับ “D-NEXT by PTT Digital x RISE” นี้ PTT Digital ได้ร่วมกับ RISE จัดตั้งโครงการขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้กับสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพ ได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างนวัตกรรม เพื่อเสริมศักยภาพในการดำเนินธุรกิจของบริษัทในกลุ่ม ปตท. และขยายการลงทุนในธุรกิจใหม่ของ PTT Digital โดยมุ่งหวังให้โครงการ D-NEXT เป็นประตูเปิดกว้างให้กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีมุมมอง และแนวคิดที่แตกต่างออกไป ได้มีโอกาสสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ สร้างตลาดใหม่ ๆ และขยายธุรกิจร่วมกันกับเรา โดยโครงการนี้จะส่งเสริม และสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพของสตาร์ทอัพ ในภูมิภาคอาเซียนให้แข่งแกร่งเทียบเท่าระดับสากล ลบข้อจํากัดด้านพรมแดน สอดคล้องกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ของภาครัฐอีกด้วย
นางอรวดี โพธิสาโร กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด เผยถึงรายละเอียดโครงการว่า “PTT Digital ตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ ที่เข้ามาช่วยสนับสนุนให้การดำเนินธุรกิจพัฒนาแบบก้าวกระโดด จะช่วยผลักดันให้ กลุ่ม ปตท. บรรลุเป้าหมายทางธุรกิจได้เร็วขึ้น และเล็งเห็นถึงความสามารถของสตาร์ทอัพภูมิภาคอาเซียนจึงเป็นที่มาของการริเริ่มโครงการ “D-NEXT” โดยจะเปิดรับสมัคร สตาร์ทอัพที่สนใจเข้าร่วมโครงการทั้งทางออนไลน์ ทางเครือข่าย RISE และรับสมัครตามกิจกรรม Roadshow ใน 5 ประเทศอาเซียน ประกอบด้วย ประเทศไทย ประเทศสิงคโปร์ ประเทศมาเลเซีย ประเทศเวียดนาม และประเทศอินโดนีเซีย เพื่อเฟ้นหาสตาร์ทอัพ จํานวน 15 ทีม เข้าร่วมบ่มเพาะศักยภาพจากเมนเทอร์ที่มากประสบการณ์และผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่าง ๆ ตลอดระยะเวลา 3 เดือน เพื่อให้ได้สตาร์ทอัพที่มีศักยภาพระดับโลก มาร่วมกันพัฒนานวัตกรรมสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ที่เติบโตแบบก้าวกระโดด (Growth Hacking) ขยายโอกาสทางธุรกิจร่วมกันกับเรา”
ด้าน นายแพทย์ ศุภชัย ปาจริยานนท์ ผู้ก่อตั้ง RISE สถาบันเร่งสปีดนวัตกรรมองค์กร และสตาร์ทอัพ เปิดเผยว่า “อาเซียน เป็นตลาดแรงงานที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโลก ด้วยจำนวนประชากรกว่า 620 ล้านคน รองจากประเทศจีน และประเทศอินเดีย เศรษฐกิจในภูมิภาคอาเซียน มีการเจริญเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 5 ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2000 และมีผู้ใช้งานดิจิทัลเพิ่มขึ้นร้อยละ 50 ซึ่งเป็นจำนวนกว่า 200 ล้านคน ทำให้เศรษฐกิจดิจิทัลเติบโตไปถึง 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา โครงการนี้จึงเป็นโอกาสที่ดีที่สตาร์ทอัพในภูมิภาคจะร่วมมือกัน โดยมีประเทศไทยเป็นจุดศูนย์กลางพร้อมผลักดันขยายเครือข่ายในการทําธุรกิจของตนสู่วงกว้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โครงการนี้ดำเนินการโดยบริษัทในกลุ่ม ปตท. ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำของประเทศไทย ประกอบกับประสบการณ์ของ “RISE” สถาบันเร่งสปีดนวัตกรรมองค์กร และสตาร์ทอัพ ที่สร้างนวัตกรรมให้แก่องค์กร ภาครัฐ และเอกชนมาแล้วกว่า 1,000 ราย ภายใต้แนวคิด “Accelerate Your Potential” ด้วยการเติมเต็มทุกองค์ความรู้รอบด้าน ผู้เชี่ยวชาญ และเครือข่ายระดับโลกทั้งในทวีปอเมริกา ทวีปยุโรป และทวีปเอเชีย จึงช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ ตลอดจนเงินทุน เพื่อการเติบโตอย่างก้าวกระโดดขององค์กรและสตาร์ทอัพได้อย่างยั่งยืน”
ทั้งนี้ ทีมที่ได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการจะได้รับสิทธิประโยชน์ อาทิ การสนับสนุนการดำเนินธุรกิจ โดยการออกแบบโปรแกรมเร่งสปีดการเติบโตแบบเฉพาะเจาะจงได้รับโอกาสในการดำเนินธุรกิจกับบริษัทในกลุ่ม
ปตท. และนำเสนอผลงานกับนักลงทุนจากทั่วทั้งภูมิภาคโดยไม่มีสิทธิ์การเข้าร่วมถือหุ้นหรือเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ผลงานของสตาร์ทอัพใดๆ และไม่เสียค่าใช้จ่ายตลอดโปรแกรม ระยะเวลา 3 เดือน และ ผู้สนใจเข้าร่วมโครงการ D-NEXT by PTT Digital x RISE" สามารถสมัครได้ทาง www.riseaccel.com/dnext ระหว่าง วันที่ 18 มกราคม - 9 มีนาคม 2561 และติดตามข้อมูลโครงการได้ที่ www.facebook.com/RISEAccelerator หรือติดต่อคุณอนัญญา พานิชศิริ ผู้ประสานงานโครงการ โทรศัพท์ +66626365463 อีเมล hi@riseaccel.com และคุณศุภกร จูฑะพล ส่วนการตลาดบริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด โทรศัพท์ +66892549524 อีเมล suppakorn.c@pttdigital.com
+
12/04/2017
บริษัท พีทีที ไอซีที โซลูชั่นส์ จำกัด ได้รับรางวัล
"Thailand ICT Excellence Awards 2017"
ณ ห้องคริสตัล ฮอลล์ โรงแรมพลาซ่า แอทธินี รอยัล เมอริเดียน
บริษัท พีทีที ไอซีที โซลูชั่นส์ จำกัด (PTT ICT) ได้รับรางวัล Thailand ICT Excellence Awards 2017 ระดับ Excellence ในโครงการ Multiple platform Integration for Digital Business Transformation สาขาพัฒนากระบวนการหลักภายใน (Core Process Improvement Projects) ในงาน Thailand ICT Management Forum 2017 โดย คุณอรวดี โพธิสาโร กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีทีที ไอซีที โซลูชั่นส์ จำกัด และคุณแสงทิพย์ จุรีกานนท์ Corporate Services Vice President เป็นผู้แทนขึ้นรับมอบรางวัลจาก ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 30 มีนาคม 2560 ณ ห้องคริสตัล ฮอลล์ โรงแรมพลาซ่า แอทธินี รอยัล เมอริเดียน กรุงเทพมหานคร
นับว่าเป็นผลงานที่ยืนยันความสำเร็จอีกระดับหนึ่ง เป็นความภาคภูมิใจของบริษัท พีทีที ไอซีที โซลูชั่นส์ จำกัด ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการคิดค้น พัฒนาการบริหารจัดการเทคโนโลยีให้เป็นระบบ และเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจในวงกว้าง ซึ่งโครงการ Multiple platform Integration for Digital Business Transformation นั้น เป็นการพัฒนาระบบทั้งระบบเทคโนโลยี และการถ่ายทอดองค์ความรู้สำหรับการใช้งาน ในแต่ละกระบวนการขององค์กร ได้แก่ กระบวนการจัดหางบประมาณ กระบวนการขาย กระบวนการคัดเลือกพนักงาน และกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง โดย บริษัท พีทีที ไอซีที โซลูชั่นส์ จำกัด มุ่งมั่นที่จะเป็นต้นแบบความสำเร็จกับการพัฒนาระบบและถ่ายทอดความรู้ให้กับบริษัทในเครือ รวมถึงบริษัทภายนอกต่อไป
+
14/02/2017
บริษัท พีทีที ไอซีที โซลูชั่นส์ จำกัด (PTT ICT)
ได้จัดการประชุมผู้ถือหุ้นให้กับ
บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด มหาชน ( AOT)
เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2560 บริษัท พีทีที ไอซีที โซลูชั่นส์ จำกัด (PTT ICT) ได้รับความไว้วางใจจากบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด มหาชน ( AOT) ในการใช้บริการระบบประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปี โดยทีม Onsite & Services Management และ Custom Application Development ได้ร่วมกันดำเนินการในงานประชุมผู้ถือหุ้นครั้งนี้ ซึ่งทีม Onsite & Services Management ได้ทำหน้าที่ติดตั้งอุปกรณ์สำหรับใช้งาน ประสานงานกับลูกค้า รวมถึงจัดหาเจ้าหน้าที่ลงทะเบียน และทีม Custom Application Development ได้พัฒนาระบบ Annual General Meeting (AGM) ขึ้นใหม่ เพื่อใช้ในงานนี้
AGM New Package (In House Development) โดยปรับปรุงแก้ไขปัญหาจากระบบเดิมที่เคยใช้งาน และเพิ่ม Function ใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ในการจัดงานประชุมผู้ถือหุ้นให้กับลูกค้ามากขึ้น อาทิเช่น ค้นหาชื่อผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมงานประชุม โดยใช้อุปกรณ์ Smartcard Reader สามารถเลือกพิมพ์บัตรลงคะแนนเข้าร่วมประชุม ในบางวาระได้ สามารถค้นหา และแก้ไขข้อมูลลงทะเบียนที่ผิดพลาดได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น และเพิ่มการลงคะแนนล่วงหน้าโดยการยิง Barcode
นอกจากนี้ระบบ AGM New Package ยังเพิ่ม Function สำหรับการใช้ระบบแบบ Package โดยสามารถ Set up configuration ต่างๆ โดยอิงตามความต้องการใช้บริการจัดงานประชุมของลูกค้าแต่ละบริษัท เช่น การแจกของชำร่วย การแสดงผลคะแนนในรูปแบบต่างๆ ลดเวลาการ Set up ระบบให้กับทีมงาน จากเดิม ใช้เวลาในการ Set up 3-7 วัน เหลือเพียง 3-5 ชั่วโมง
ผลจากการใช้งานบริการนั้น PTT ICT ได้รับเสียงตอบรับชื่นชมจากบริษัท AOT ถึงประสิทธิภาพความรวดเร็วของระบบดังกล่าวทำให้เกิดขวัญ และกำลังใจแก่ทีมงานเป็นอย่างมาก
+
25/11/2015
บริษัท พีทีที ไอซีที โซลูชั่นส์ จำกัด ได้ผ่านการการตรวจประเมิน CMMI for Development Maturity Level 3
จากการตรวจประเมิน CMMI ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2555 บริษัท พีทีที ไอซีที โซลูชั่นส์ จำกัด ได้ผ่านการการตรวจประเมิน CMMI for Development Maturity Level 3 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่ง CMMI (Capability Maturity Model Integration) คือ มาตรฐานกระบวนการในการพัฒนางาน ให้มีประสิทธิภาพตามมาตรฐานของสากล ดังนั้นจึงถือได้ว่า บริษัท พีทีที ไอซีที โซลูชั่นส์ จำกัด นั้นมีคุณภาพของสินค้า บริการ และมีกระบวนการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างมีประสิทธิภาพ มีความน่าเชื่อถือ และมีมาตรฐานระดับสากล
ในปัจจุบันองค์กรหรือบริษัทชั้นนำจำนวนมากจึงต้องการนำ CMMI มาใช้ เพื่อปรับปรุงกระบวนการทำงานให้อยู่ในระดับมาตรฐานสากลที่ต้องการ โดยมาตรฐาน CMMI นั้น มี 5 ระดับ ซึ่งจะมีวิธีการหรือขั้นตอน (Process Improvement) เพื่อพัฒนา ปรับปรุงคุณภาพของผลิตภัณฑ์และบริการให้มีประสิทธิภาพ ตั้งแต่กระบวนการออกแบบจนถึงการส่งมอบ รวมถึงการบำรุงรักษาด้วย
ผลลัพธ์ที่ บริษัท พีทีที ไอซีที โซลูชั่นส์ จำกัด ได้รับจาก CMMI Level 3 อาทิเช่น
กระบวนการทำงานสำคัญของโครงการมีความชัดเจน และเป็นระบบมากขึ้น กระบวนการมีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องเพื่อประโยชน์สูงสุดขององค์กร
มีเครื่องมือสนับสนุนกระบวนการทำงานของโครงการ ทำให้การทำงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
การทำงานร่วมกันของบุคลากรทั้งภายใน ระหว่าง และภายนอกหน่วยงาน เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
บุคลากรที่มีอยู่รวมถึงบุคลากรใหม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพไม่ต้องคอยถามคนใดคนหนึ่ง
ผลิตภัณฑ์ที่ได้มีคุณภาพมากขึ้น เนื่องจากกระบวนการที่ดีนำไปสู่ผลงานที่ดี เช่น งานเป็นไปตามแผนที่กำหนด มีวิธีการ/องค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องชัดเจน เป็นต้น
การใช้งบประมาณเป็นไปอย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อองค์กร ลดการทำ Rework, เพิ่มผลงานต่อหน่วยการลงทุน, เครื่องมือพัฒนาแล้วใช้ได้ทั้งองค์กรเพราะกระบวนการเป็นไปในแนวทางเดียวกัน
Stakeholder พึงพอใจในการทำงานของ PTT ICT เพราะกระบวนการทำงานเป็นไปตามมาตรฐานสากล นำไปสู่ความร่วมมืออย่างยั่งยืน เป็นต้น
ภาพบรรยากาศการรับ CMMI Level 3
+
29/09/2014
สรรหาผู้ที่สนใจ เรามีความต้องการบุคลากรรุ่นใหม่ที่มีความสามารถ มีศักยภาพพร้อมที่จะเรียนรู้เข้าทำงานเพื่อรองรับธุรกิจทางด้านเทคโนโลยี สารสนเทศ เพื่อการร่วมเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จกับ PTT ICT +
พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น ตระหนักดีว่าปัจจัยสู่ความสำเร็จของบริษัท ขึ้นอยู่กับบุคลากรที่มีคุณภาพ พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จึงให้ความสำคัญด้านบุคลากรเป็นอย่างยิ่ง โดยกำหนดนโยบายในการเลือกสรรบุคลากรที่มีประสิทธิภาพ มุ่งสนับสนุนการพัฒนาความสามารถการทำงานระดับมืออาชีพอย่างต่อเนื่อง ให้ความมั่นใจในคุณภาพชีวิตการทำงานและสภาพแวดล้อม รวมทั้งให้ผลตอบแทนแก่พนักงานที่เป็นธรรม เหมาะสม ทัดเทียมบริษัทชั้นนำ โดยเรามุ่งเสริมสร้างวัฒนธรรมและบรรยากาศการทำงานที่ดีงาม การทำงานเป็นทีม เพื่อให้พนักงานเกิดความมั่นใจในการปฏิบัติงาน